ไม้อัด HMR และไม้อัดทั่วไปแบบไหนทนชื้นได้ดีกว่ากัน และราคาแตกต่างกันอย่างไร

หลายท่านคงเคยมีประสบการณ์การใช้ไม้อัดในการตกแต่งภายใน ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วมักมีปัญหาหลักๆ คือ ไม้มีอาการบวม บิด หรือโก่งงอเนื่องจากความชื้น และไม้แตกบิ่นเนื่องจากถูกตกแต่งด้วยเครื่องมืองานไม้ ซึ่งเราสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายด้วยการเลือกใช้ไม้อัดเอชเอ็มอาร์ (HMR) หรือแผ่นใยไม้อัดทนความชื้นแทนการใช้ไม้อัด ซึ่งในวันนี้ Wazzadu.com จะเปรียบเทียบให้เห็นถึงข้อดีและข้อเสียของวัสดุทั้ง 2 ประเภทกันครับ

ไม้อัด ผลิตด้วยวิธีการนำแผ่นไม้มาเฉือนออกให้เป็นชั้นบางๆ โดยวางแนวเสี้ยนแบบตั้งฉากสลับกันจนเรียงซ้อนกันเป็นจำนวนหลายๆ ชั้น จากนั้นนำไปติดกาวเชื่อมเข้าด้วยกันแล้วนำไปอบที่อุณหภูมิ 140 °C (284 °F) และที่ความดัน 1.9 MPa (280 psi) เพื่อให้ได้แผ่นไม้อัดที่มีความเรียบเนียนแข็งแรงทนทาน โดยความสวยงามของแผ่นไม้อัดที่ได้นั้นจะขึ้นอยู่กับเกรดของแผ่นไม้อัด

แผ่นใยไม้อัดทนความชื้นหรือไม้อัดเอชเอ็มอาร์ (HMR – High Moisture Resistance board) คือไม้เอ็มดีเอฟผสมสารทนความชื้น (High Moisture Resistance board - HMR) ผลิตโดยการนำชิ้นไม้ยูคาลิปตัสจากป่าปลูกมาสับและบดจนเป็นเส้นใยละเอียดแล้วอัดประสานด้วยกาวชนิดพิเศษจึงสามารถช่วยเพิ่มแรงต้านการขยายตัวและการบิดโก่งของไม้ได้ สำหรับสีเขียวในไม้ HMR เป็น pigment สีที่เพิ่มเข้าไปในกระบวนการผลิตซึ่งสีอาจจางและเปลี่ยนไปเมื่อถูกแดดหรือโดนความร้อน แต่จะไม่มีผลคุณภาพ ความคงทน และความสามารถในการทนชื้นของเนื้อไม้ 

1. ไม้ HMR ราคาประหยัดกว่าไม้อัดทั่วไป

ไม้ HMR มีราคาประหยัดกว่าไม้อัดทั่วไป แต่มีคุณสมบัติที่ดีกว่าในหลายๆ ด้าน จึงช่วยให้เจ้าของโครงการสามารถส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพให้กับผู้ใช้งานได้ ช่วยลดราคางานตกแต่งลงได้มาก โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ เช่น คอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร หรืออาคารสาธารณะประเภทอื่นๆ ซึ่งการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีนั้น นอกจากจะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ของโครงการแล้ว ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างและการบำรุงรักษาให้กับผู้ใช้งานอีกด้วย 

2. ไม้ HMR ทนชื้นใกล้เคียงกับไม้อัด

ไม้ HMR นั้นถูกผลิตขึ้นมาเพื่อให้ใช้ในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงเช่น บริเวณห้องครัว หรือห้องน้ำส่วนแห้ง และไม้ HMR ผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน EN 317 ขั้นตอนการทดสอบคือนำไม้ HMR ไปแช่น้ำเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ผลที่เกิดขึ้นคือ ไม้ HMR บวมขึ้นเพียงเล็กน้อยประมาณ < 6% เท่านั้นซึ่งแทบไม่ต่างจากไม้อัดทั่วไปที่มีอัตราการบวมน้ำประมาณ < 4% 

3. ไม้ HMR มีความยาวขนาดพิเศษจึงตอบโจทย์งานออกแบบได้อย่างดีเยี่ยม

ทางบริษัทอะโกรไฟเบอร์มีไม้ HMR ขนาดใหญ่สูงสุดถึง 4.8 เมตร จึงเหมาะสำหรับใช้กับงานบิ้วท์อินที่นิยมทำให้สูงชนเพดานห้อง หรืองานดีไซน์ในรูปแบบอื่นๆ ที่ต้องการใช้ไม้ที่มีขนาดยาวพิเศษโดยไม่มีรอยต่อ ทำให้งานตกแต่งภายในมีความสวยงามตอบสนองจินตนาการของผู้ออกแบบได้อย่างไร้ขีดจำกัด นอกจากนี้พื้นผิวยังมีความเรียบและสม่ำเสมอมากกว่าไม้อัดอีกด้วย 

4. ไม้ HMR ผลิตโดยขึ้นรูปด้วยเยื่อ และขัดผิวให้ความหนาสม่ำเสมอ เมื่อนำไปตัดหรือตกแต่งจึงสามารถทำได้ง่ายโดยที่เนื้อไม้ไม่หักหรือบิ่น แตกต่างจากไม้อัดที่ผลิตเป็นแบบการนำแผ่นไม้บางๆมาเรียงซ้อนหลายชั้น จึงมีความแปรปรวนสูง

ปัญหาของไม้อัดในการใช้งานที่มักเจอบ่อยๆ คือตัดแต่งได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นการบาก ตัด ไส ผิวของไม้อัดด้านนอกมักแตกออก ผิวไม้เป็นขุย ไม่เรียบ และเกิดเป็นเสี้ยนไม้ จึงทำให้ต้องทำการตัดไม้ส่วนที่เสียออก ทำให้ไม้อัดมีขนาดไม่ได้ตามที่ต้องการและไม่ตรงตามแบบ 

หากต้องการเซาะร่องเป็นลวดลายต่างๆ จะไม่สามารถใช้ไม้อัดได้ แต่สำหรับไม้ HMR สามารถเซาะร่องเป็นลวดลายได้ตามที่ต้องการ โดยสามารถใช้เครื่องมือช่างทั่วไปหรือใช้เครื่อง CNC (Computer Numerical Control) ก็ได้ ซึ่งไม้ HMR จึงตอบโจทย์ข้อนี้ได้เป็นอย่างดีเพราะสามารถแกะสลักเป็นชิ้นงานที่มีมิติและมีลวดลายที่ซับซ้อนโดย ไม่ทำให้เนื้อไม้ยุ่ยหรือเป็นขุยอีกด้วย 

5. ไม้ HMR มีความแข็งแรงทนทานไม่บิดงอง่าย และสามารถรับน้ำหนักได้ดี จึงเหมาะสำหรับใช้ทำเฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อิน 

ไม้ HMR ถูกผลิตมาให้มีความแข็งแรงมากกว่า ไม้ MDF และสามารถนำไปใช้ทดแทนไม้อัดได้เป็นอย่างดี สามารถรับน้ำหนักได้ และมีความหนาให้เลือกคือ 4 – 25 mm ตามความเหมาะสมในการใช้งาน โดยไม้ HMR ของบริษัทอะโกรไฟเบอร์ผลิตโดยใช้เทคโนโลยีกาวเมลามีน ที่มีความแข็งแรงสูงตามมาตรฐาน V313 (EN 321) แตกต่างจากไม้อัดทั่วไปที่ใช้กาวยูเรียฟอมัลดีไฮด์ซึ่งจะมีความทนทานน้อยกว่ากาวเมลามีน

เมื่อได้เห็นถึงความแตกต่างของไม้ HMR และไม้อัดแล้ว จะเห็นได้ว่า ไม้ HMR เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการใช้งานเลยทีเดียวนะครับ เพราะนอกจากราคาจะถูกกว่าไม้อัดแล้ว ไม้ HMR ยังมีคุณสมบัติที่ดีกว่าในอีกหลายๆ ข้อตามที่กล่าวมาข้างต้นครับ หากท่านใดที่กำลังมองหาไม้สำหรับใช้ในการตกแต่งภายใน ทางอะโกรไฟเบอร์มีไม้หลากหลายชนิดและหลายความหนาให้เลือกใช้งาน ซึ่งสามารถปรึกษาหรือสั่งซื้อได้ตามเบอร์โทรศัพท์ด้านล่างนี้ครับ

สามารถกรอกข้อมูลความต้องการ Spec สินค้าได้ที่ลิงค์นี้
www.wazzadu.com/page/agrofiber/contact

หรือติดต่อที่เบอร์ 038-538347, 085-8352241