กรณีศึกษา Low Carbon Residential การหลอมรวมสถาปัตย์เข้ากับธรรมชาติเพื่อสร้างสถานที่พักผ่อนกาย พักฟื้นใจ
มีใครคิดเหมือนกันไหมครับว่าบางทีคำตอบของการออกแบบที่อยู่อาศัยที่ทำให้เกิดคาร์บอนต่ำ อาจอยู่ที่การกลับมาสู่รากเหง้าของสถาปัตยกรรมก็เป็นได้นะครับ
เมื่อเราเห็นการสร้างงานสถาปัตยหรืออาคารต่างๆ มีความเชื่อมโยงกับธรรมชาติมากขึ้นในหลายโครงการทั้งสเกลเล็ก-ใหญ่ แต่ด้วยเทคโนโลยีและวัสดุที่ก้าวหน้าในศตวรรษที่ 21 นั้น ทาง Wazzadu Low Carbon Material Library เองมองว่าการออกแบบเชิง Low Carbon ไม่ได้หมายถึง การจำกัดตัวเลือกหรือลดคุณภาพของพื้นที่ใช้สอยให้น้อยลงเพื่อประห
แล้วจะออกแบบยังไงให้เกิดเป็น Low Carbon Residential ได้บ้าง มาดูกรณีศึกษาของเคสนี้กันครับ
ข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ : Het Bosbad
ผู้ออกแบบ : GAAGA Architects
ที่ตั้ง : เมือง Eindhoven ประเทศเนเธอร์แลนด์
เคสนี้มีการผสมผสานปรัชญาการออกแบบเชิงนิเวศ วัสดุที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ และหลักการบำบัดธรรมชาติเข้ามารวมด้วยกัน จนเกิดเป็นต้นแบบของ Residential Architecture ที่ตอบสนองทั้งความต้องการของมนุษย์และความยั่งยืนของโลกใบนี้
นี่คืออพาร์ทเมนต์ที่ชื่อ “Het Bosbad (เฮ็ท บอสบาด)” ตั้งอยู่ที่เมือง Eindhoven ประเทศเนเธอร์แลนด์ ถูกออกแบบขึ้นโดยสถาปนิก GAAGA และเป็นอีกตัวอย่างที่ออกแบบภายใต้แนวคิด Forest Bathing (การอาบป่า) ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรม Shinrin-yoku ของญี่ปุ่น
ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงการสร้างสภาพแวดล้อมให้ใกล้ชิดธรรมชาติเท่านั้น หากแต่ยังวางแผนโครงสร้าง วัสดุ และระบบอาคารทั้งหมดให้ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ตลอดวงจรชีวิตอาคารให้น้อยลง จึงทำให้ Het Bosbad กลายเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของอาคารคาร์บอนต่ำที่ผสานเรื่อง Wellness ของผู้คนเข้ากับการออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างแนบเนียน
วิธีการออกแบบมุมสถาปัตยกรรมของ Het Bosbad
อาคารถูกจัดวางให้อยู่ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวรายล้อม และวางผังในลักษณะสี่เหลี่ยมที่เปิดให้ทุกยูนิตสามารถมองเห็นป่าภายนอกได้ตลอดเวลา ช่องว่างกลางอาคารทำหน้าที่ทั้งเป็น Courtyards และตัวกลางสำหรับระบายอากาศธรรมชาติ ช่วยให้ลมพัดผ่านและลดการสะสมความร้อนภายใน ขณะเดียวกันก็เปิดรับแสงธรรมชาติในเวลากลางวัน ลดความจำเป็นในการใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อแสงสว่าง
จุดนี้เองที่สะท้อนการคิดเชิง Passive Design ที่ไม่เพียงช่วยให้ผู้อยู่อาศัยมีความสบายทางกาย แต่ยังเป็นการลดคาร์บอนจากการใช้พลังงานแบบ Operational Carbon ได้อย่างเป็นรูปธรรม
ในด้านวัสดุ มีการเลือกใช้ไม้จริงเป็นองค์ประกอบหลัก ทั้งในงานโครงสร้างและงานตกแต่งภายนอก โดยใช้ไม้จริงที่ยังคงมีเปลือกเพื่อสร้าง Façade, เสาและโชว์ผิวสัมผัสเพื่อคงความงามตามธรรมชาติ และวัสดุไม้เป็นวัสดุที่ค่า Embodied Carbon ต่ำ เมื่อเทียบกับวัสดุทั่วไปอย่างคอนกรีตหรือเหล็ก นอกจากนั้น ไม้ยังเป็นวัสดุที่กักเก็บคาร์บอนได้ในตัวเอง การนำไม้มาใช้ในโครงการจึงเสมือนเป็นการลดรอยเท้าคาร์บอนตั้งแต่ต้นทาง
อีกทั้งไม้ที่เลือกใช้ยังถูกออกแบบให้ถอดประกอบได้ ซึ่งสอดคล้องตามแนวคิด Circular Construction ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่เมื่อหมดอายุการใช้งาน เท่ากับว่าช่วยลดการปล่อยคาร์บอนจากการรื้อถอนได้อีกขั้น
ที่ Het Bosbad ยังมีการจัดการน้ำฝนผ่านระบบ WADI System หรือการทำบ่อน้ำตื้นเพื่อให้น้ำฝนไหลลงไปและค่อยๆ ซึมลงดินตามธรรมชาติ ลดความจำเป็นในการสร้างโครงสร้างท่อระบายน้ำใต้ดินที่ใช้พลังงานสูง อีกทั้งน้ำฝนที่เก็บได้ยังถูกนำมาใช้รดพืชในพื้นที่ส่วนกลาง ถือเป็นการใช้ทรัพยากรซ้ำในลักษณะหมุนเวียนที่ทั้งลดพลังงานและสร้างระบบนิเวศที่สมดุล
การส่งเสริมเรื่องสุขภาวะ (Wellness Life)
เมื่อมองภาพรวมด้านออกแบบอาคารแล้ว สิ่งเหล่านี้ล้วนเชื่อมโยงโดยตรงกับมิติของ Wellness สำหรับผู้พักอาศัยครับ เพราะการออกแบบที่เปิดรับแสงแดดธรรมชาติ ลมธรรมชาติ และได้มีจุดชมวิวที่เห็นแมกไม้หรือพื้นที่สีเขียวนอกโครงการ ประสาทสัมผัสผ่านการมองและการสัมผัสเหล่านั้น จะทำให้ร่างกายกับจิตใจของผู้คนได้รับการฟื้นฟู เป็นการพักผ่อนที่ธรรมชาติคอยบำบัด
นึกถึงภาพห้องทุกห้อง เมื่อมองออกไปยังทิวไม้ที่เขียวขจี ได้สร้างความรู้สึกสงบและความผ่อนคลายในทุกวัน ตัดมาที่ภายในโครงการมีออกแบบสวนหย่อมที่เป็นเส้นทาง Shinrin-Yoku Path ขนาดเล็กที่ตกแต่งด้วยวัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ เฟิร์น และหิน ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสกลิ่น เสียง และบรรยากาศแบบป่าไม้จริงๆ ซึ่งมีผลทางตรงต่อการลดความเครียดและปรับสมดุลทางอารมณ์
โดยรวมแล้วการออกแบบของ Het Bosbad เป็นการประสานระหว่างแนวคิด Low Carbon และ Wellness ได้กลมกลืน ด้านหนึ่งเพื่อลดคาร์บอนในเชิงวัสดุและการดำเนินงานก่อสร้างของอาคาร อีกด้านหนึ่งได้สร้างสภาวะอยู่สบายทั้งทางกายและใจให้กับผู้คนด้วยการอิงประสาทสัมผัสที่ใช้ชีวิตใกล้ธรรมชาติมากขึ้น
สถาปัตยกรรมที่นี่จึงไม่เพียงเป็นที่อยู่อาศัย แต่เป็นพื้นที่ฟื้นฟูที่ให้ความหมายใหม่แก่คำว่า Real Estate ในฐานะพื้นที่ดูแลสิ่งแวดล้อมและผู้คนในเวลาเดียวกัน
ขอบคุณข้อมูลและรูปประกอบ : www.archdaily.com
ผู้เขียนบทความ
ด้วยการเกณฑ์การประเมินคาร์บอนฯ ที่แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่
1. Low Carbon CFO (Carbon Footprint for Organization) : การประเมิน carbon footprint ขององค์กร
2. Low Carbon CFP (Carbon Footprint of Product) : การประเมิน carbon footprint ของผลิตภัณฑ์
ทั้งนี้เพื่อผลักดันให้ผู้ผลิตและผู้พัฒนาวัสดุที่มีความมุ่งมั่นในการลดคาร์บอนจากวัสดุที่จำหน่าย มุ่งสู่เส้นทาง Low Carbon material ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทางโครงการมีการแบ่งเฟสที่บอกระดับว่าแต่ละองค์กรอยู่ที่จุดไหนแล้วบ้าง ได้แก่
Phase 1 : Committed เข้าร่วมโครงการ Wazzadu Low Carbon Material Library สู่เส้นทาง Low Carbon
Phase 2 : On-Track ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
Phase 3 : Achieved สามารถปล่อยคาร์บอนฯ ต่ำได้แล้วเมื่อเทียบจากครั้งก่อนๆ
หวังว่าห้องสมุดที่รวมวัสดุคาร์บอนฯ ต่ำนี้จะช่วยให้ทุกท่านได้พบกับวัสดุที่สามารถใช้ออกแบบให้เกิดเป็นสถาปัตยกรรมคาร์บอนต่ำได้จริง ... อ่านเพิ่มเติม