Well-being office Design “ออฟฟิศสุขภาพดี” เพิ่ม Productivity ได้จริงไหม? How Office Design Impacts Employee Productivity & Satisfaction?
ข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่าปัญหาภาวะซึมเศร้าและ ความวิตกกังวลส่งผลกระทบต่อการสูญเสียวันทำงานถึง 12,000 ล้านวันทั่วโลก การสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน สามารถช่วยลดอัตราการลาออกของ พนักงานได้ถึง 50% ทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมได้มากถึง 22%
ฉะนั้นการให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานจึงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่องค์กรไม่ควรมองข้าม เพราะสามารถส่งผลโดยตรงต่อความสำเร็จของ องค์กรในระยะยาว วันนี้ Wazzadu.com และ Smart Tec ผู้พัฒนาและเชี่ยวชาญ ด้านฟิล์มติดอาคาร จะพาไปรู้จักกับการเพิ่ม Productivity ที่เหมาะกับเหล่า มนุษย์ออฟฟิศกันครับ
Well-being Office Design
คือ การออกแบบพื้นที่สำนักงานที่คำนึงถึงสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานในทุกมิติ ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างสภาพแวดล้อม การทำงานที่ส่งเสริม ประสิทธิภาพการทำงาน สุขภาพกาย สุขภาพจิตที่ดีและการสร้าง สมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว
องค์ประกอบสำคัญของ Well-being Office Design
- การจัดแสงสว่างที่เหมาะสม ช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตาและลดความเครียดที่เกิดจากการนนั่งจ้องจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ
- การนำต้นไม้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในออฟฟิศ จะช่วยเพิ่มบรรยากาศที่ดีและลดความเครียดของพนักงานได้
- ควรจัดวางอุปกรณ์ เฟอร์นิเจอร์ตามหลักสรีรศาสตร์ เก้าอี้ โต๊ะทำงานที่ปรับระดับได้ ช่วยส่งเสริมการเคลื่อนไหวระหว่างวันและลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการนั่งทำงานแบบผิดสรีระร่างกายไปนาน ๆ
- การส่งเสริมการออกกำลังกาย จัดพื้นที่ให้พนักงานได้ออกกำลังกายหรือยืดเส้นยืดสาย
- ควบคุมเสียงรบกวนภายในออฟฟิศเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่สงบและมีสมาธิ
- การใช้องค์ประกอบทางสุนทรียะ เช่น งานศิลปะ หรือสีที่ผ่อนคลาย ช่วยส่งเสริมอารมณ์เชิงบวก เช่น สีฟ้าหรือสีเขียว ก็สามารถช่วยลดความเครียดและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
- มีทั้งพื้นที่ที่ต้องการสมาธิ และพื้นที่ที่ส่งเสริมการทำงานร่วมกัน
หนึ่งวิธีในการเพิ่ม Productivity คือการมีพื้นที่ส่วนกลางที่ออกแบบมาให้เงียบสงบ ปราศจากสิ่งรบกวน เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานที่ต้องใช้สมาธิสูง งานที่ต้องคิดวิเคราะห์ หรือทำงานที่ซับซ้อนได้อย่างเต็มที่ Smart tec ผู้เชี่ยวชาญด้านฟิล์มติดอาคาร ขอนำเสนอฟิล์มไล่เฉดเพื่อสร้างพื้นที่ Focus Zone อย่างง่ายดายด้วยฟิล์มติดกระจก
ฟิล์มไล่เฉด (Gradient film) จาก Smart Tec
คือ ฟิล์มกรองแสงชนิดหนึ่งที่มีความเข้มของสีไม่เท่ากันทั่วทั้งแผ่น โดยจะไล่ระดับความเข้มจากเข้มไปอ่อน การติดฟิล์มกระจกเพื่อสร้างพื้นที่ส่วนตัว สามารถช่วยบังตาและสร้างพื้นที่ส่วนตัวได้ในระดับหนึ่ง ในขณะที่ยังสามารถมองเห็นอีกฝั่งได้บางส่วน และยังมีแสงส่องผ่าน
Gradient film แบบ Single side dots
ฟิล์มใสไล่เฉดสีขาวลวดลายแบบจุด ไล่เฉดจากเข้มไปใส จึงสามารถมองเห็นได้เพียงบางส่วน ในมุมที่สูงขึ้นเท่านั้น ช่วยบังตา สร้างพื้นที่ส่วนตัวได้ในระดับหนึ่ง และยังเปลี่ยนให้กระจกธรรมดาดูสวยงามทันสมัยมากขึ้น
Gradient film แบบ Double side dots
ฟิล์มลายจุดสีขาวตรงกลางไล่เฉดให้ใสด้านบนและล่าง สามารถมองเห็นได้ในมุมต่ำและมุมสูง และจะทีบในระดับสายตา จึงช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวและบังสายตาจากภายนอกได้ดี เป็นส่วนตัวแต่ไม่ได้ปิดทึบทั้งหมด
คุณสมบัติฟิล์มไล่เฉด (Gradient film) จาก Smart Tec
- เพิ่มความเป็นส่วนตัว แต่ไม่ลับสายตา
- ตอบโจทย์งานออกแบบตกแต่งภายในได้หลากหลายสไตล์
- ช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์
- ดีไซน์สวยงาม ทันสมัย
- ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับกระจก
- สำหรับผนังกระจกภายในอาคารโดยเฉพาะอาคารสำนักงาน
- ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว
ผู้เขียนบทความ
เริ่มก่อตั้งและจดทะเบียนการค้าตั้งแต่ปี 2544 โดยบริษัทได้ดำเนินธุรกิจในการนำเข้า และจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสง ฟิล์มใสลดความร้อน ฟิล์มนิรภัยสำหรับติดรถยนต์,อาคารและที่พักอาศัย ฟิล์มเพื่อการตกแต่งภายใน และเครื่องมือในการติดตั้งฟิล์ม โดยในส่วนของฟิล์มติดอาคาร ทางบริษัทได้จัดจำหน่ายแบรนด์สมาร์ทเทค และซันการ์ด ( จากอเมริกา )
ทางบริษัทได้ดำเนินธุรกิจโดยการเน้นหลักคุณธรรมกับลูกค้าและองค์กรมาตลอด การจัดจำหน่ายสินค้าจะเน้นให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่ามากที่สุด จึงทำให้ฟิล์มกรองแสงจากบริษัทฯ ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายซึ่งปัจจุบันมีตัวแทนมากกว่า 500 รายทั่วประเทศ อีกทั้งยังได้การตอบรับที่ดีจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนมากมายในการใช้บริการติดตั้งฟิล์มติดอาคาร อาทิเช่น พระราชวังสวนจิตรลดา, Pullman Hotel, Novotel, Honda Asia Pacific R&D, Toyota Motor Thailand, ช่อง 7 สี, กรมการปกครองส่วนท้องถิ่น, โรงพยาบาลวิชัยยุทธ, โรงพยาบาลกลาง, มหาวิทยาลัยมหิดล, สวทช รวมถึง รีสอร์ท อลีลา วิลล่า ที่หมู่เกาะมัลดีฟ เป็นต้น ... อ่านเพิ่มเติม