CEO Interview - การพัฒนานวัตกรรมเสียงที่ดี จะสร้างสภาพแวดล้อมที่ยกระดับคุณภาพชีวิต
หลายคนๆ คิดว่าการมีสุขภาพที่ดีน่าจะเป็นเรื่องของการม่างกายที่แข็งแรงหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดฝุ่น ปลอดสารพิษ แต่ว่าเรื่องของ “เสียง” เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการเกิด Environment ที่สร้างพื้นที่ความสงบซึ่งเหมาะกับการพักผ่อน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่อยู่อาศัยตามแนวดิ่งอย่างคอนโดมีเนียม โรงแรม หรือแม้แต่ออฟฟิศที่ต้องการความเงียบเพื่อโฟกัสกับการทำงานให้มีประสิทธิภาพ เรื่องของเสียงจึงสะท้อนออกมาว่ามีความสำคัญต่อผู้คนมากแค่ไหน
และเมื่อไม่นานมานี้ Wazzadu.com ได้สัมภาษณ์กับนวัตกรท่านหนึ่งที่เป็นแบรนด์ผู้พัฒนาวัสดุผนังอะคูสติก กับคุณกฤษดา สาธุกิจชัย ผู้บริหารแบรนด์ Trandar Acoustics ที่มองว่าการพัฒนาวัสดุในยุคนี้ต้องไม่ใช่เพียงการสร้างผลิตภัณฑ์เพื่อใช้งานเท่านั้น แต่ต้องคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับโลกและผู้คนอย่างรอบด้าน ที่ได้ชวนคุยถึงประเด็นด้าน Sustainability และเรื่องราวเทคโนโลยีที่น่าสนใจจากแบรนด์
Wazzadu.com เลยขอแบ่งปันความรู้ที่ได้จากการพูดคุยกับคุณกฤษดาให้เพื่อนๆ ได้ติดตามกันครับ
เมื่อเอ่ยถามถึง แนวโน้มเรื่อง Climate Disruption ที่เกิดขึ้นในยุคนี้ ว่ามีผลต่ออุตสาหกรรมตกแต่งก่อสร้าง อย่างไรบ้าง?
คุณกฤษดา สาธุกิจชัย กล่าวทบทวนถึงภาพกว้างของอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างที่ตนอยู่มาตลอดหลายสิบปี ก่อนจะอธิบายว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เทรนด์ แต่เป็นโจทย์ใหญ่ที่ทุกธุรกิจหนีไม่พ้น ธุรกิจต่างต้องเตรียมปรับตัวเพราะความยั่งยืนไม่ได้เป็นเพียงชุดคำสวยงาม แต่คือกรอบคิดที่ต้องผสานทั้ง Good for Earth และ Good for People โดยที่อธิบายว่า หากเราทำงานเพื่อโลกเพียงอย่างเดียว แต่ละเลยเรื่องของสุขภาวะของผู้คนก็เท่ากับตอบโจทย์ไม่ครบ เช่นเดียวกัน ถ้าเราทำผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อผู้ใช้งานแต่ว่ากลับสร้างภาระให้กับสิ่งแวดล้อมก็เป็นเพียงการย้ายปัญหาไปอีกมุมหนึ่งเท่านั้น
นี่จึงเป็นที่มาของแนวคิด 3Z ที่ Trandar Acoustics ยึดถือมั่นในการพัฒนานวัตกรรม เริ่มที่ Z หรือ Zero ตัวแรกกับ Zero Emission ที่พยายามลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในทุกขั้นตอนของการ Operation ภายในองค์กร และ Zero ตัวที่ 2 คือ Zero Waste กับการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าและจัดการของเสียให้ได้มากที่สุดก่อนปิดด้วยตัวสุดท้าย Zero Equity ที่มีความหมายไม่แพ้ข้ออื่น นั่นคือการทำให้ทุกฝ่ายใน Ecosystem ตั้งแต่ผู้ผลิตวัสดุ นักออกแบบ ช่างติดตั้ง ไปจนถึงผู้อยู่อาศัย ต่างควรได้รับประโยชน์และคุณภาพชีวิตอย่างเท่าเทียม ภายใต้การใช้ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์
นอกจากนี้ การตั้งคำถามกับโครงสร้างการทำธุรกิจแบบเดิมที่มองโลกผ่านตัวเลขยอดขายและกำไรแค่ 2 เรื่องอาจมากพอสำหรับธุรกิจ แต่ไม่มากพอสำหรับโลกใบนี้ คุณกฤษดามองว่าอีกเรื่องที่ทุกบริษัทควรใส่ลงไปคือ Green Line หรือตัวเลขที่สะท้อนว่าองค์กรช่วยโลกไปได้เท่าไรในปีนั้น เพราะกำไรที่แท้จริงควรเป็นผลรวมของ Bottom Line บวกกับ Green Line ซึ่งเป็นการถ่วงดุลความสำเร็จทางการเงินเข้ากับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
แบรนด์ Trandar Acoustics กับนวัตกรรม Wellness เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม
ถ้ามองย้อนกลับไปเมื่อ 10 หรือ 20 ปีก่อน ทางแบรนด์ได้เรียนรู้เทคโนโลยีจากหลายประเทศ ไม่ว่าจะจากอเมริกา จากยุโรป หรือจากในไทยเราเอง จนสุดท้ายแล้วถึงเวลาที่ Trandar Acoustics ต้องสร้างนวัตกรรมของคนไทยเราเอง ความเปลี่ยนแปลงนี้ มาจากการที่คุณกฤษดาเห็นศักยภาพของวัสดุในประเทศไทย และถ้าเรารู้จักใช้ Local Material อย่างเหมาะสม ไม่เพียงจะช่วยลดคาร์บอนจากการขนส่ง แต่ยังสามารถต่อยอดด้วย Material Science ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิมได้ด้วย
การเลือกวัสดุหนึ่งชิ้นไม่ใช่แค่เรื่องของราคา แต่ต้องคำนึงถึงความเกี่ยวข้องกับชีวิตของคน ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต ขั้นตอนของคนที่ติดตั้งไปจนถึงผู้ที่อยู่ร่วมกับวัสดุนั้นไปอีกหลายสิบปี เพราะฉะนั้นหากผลิตภัณฑ์ใดผลิตภัณฑ์หนึ่งจะถูกเรียกว่าเป็นนวัตกรรมของ Trandar จะต้องดีต่อโลกและปลอดภัยต่อผู้คนอย่างแท้จริง
จากแนวคิดนี้เอง ทำให้แบรนด์พัฒนาระบบวัสดุที่มองครบทั้งวงจร ตั้งแต่การสร้างผนัง ฝ้า พื้น ไปจนถึงองค์ประกอบอะคูสติก เพื่อให้เกิดสภาพแวดล้อมการอยู่อาศัยที่ดีหรือที่เขาเรียกง่ายๆ ว่า Wellness ของผู้ใช้ในชีวิตจริง การเติบโตอย่างยั่งยืนในแบบของแบรนด์จึงไม่ใช่การมองนวัตกรรมเป็นวัตถุ แต่มองนวัตกรรมเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกคนในอุตสาหกรรม
การพัฒนานวัตกรรมวัสดุ เสมือนงานวิศวกรรมเสียง
และปิดท้ายกับเรื่องนวัตกรรมสักหน่อยนะครับ คุณกฤษดาเล่าต่อถึงงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่เขาเก็บฟีดแบคจากกลุ่มลูกค้าและใช้เวลาศึกษามานานกว่า 7 ปี ก่อนจะกลายเป็น Trandar Hitech Wall ระบบผนังอะคูสติกที่ออกแบบโดยคิดค้นตั้งแต่ระดับโครงสร้างภายในไปจนถึงความถี่ของคลื่นเสียงและความร้อนที่เดินทางผ่านวัสดุแต่ละชิ้นทะลุเข้ามายังภายในอาคารได้ ซึ่งความน่าสนใจของ Trandar Hitech Wall เกิดจากการผสาน 3 นวัตกรรมหลัก ได้แก่
- แผ่น Zoundboard (ซาวน์บอร์ด) ที่มีชั้น damping ภายใน ช่วยลดแรงสั่นและลดการทะลุผ่านของเสียงได้เหนือกว่าแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ทั่วไป
- โครงเหล็ก Heplar (เฮฟลาร์) ที่ออกแบบด้วย Heplar Pattern ทำหน้าที่เสมือนสปริง ช่วยเพิ่มค่ากันเสียง เพิ่มความยืดหยุ่น และลดความเสียหายจากการยืดหดตัวของวัสดุ
- ฉนวน dBphon (ดีบีโฟน) ที่ออกแบบมาป้องกันการยุบตัว หรือการ Slumping เพื่อช่วยให้ประสิทธิภาพการกันเสียงคงที่ แม้ว่าจะผ่านการใช้งานเป็นเวลาหลายปี
เมื่อรวมทั้งสามเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน จึงเกิดเป็นผนังที่มีประสิทธิภาพครบด้าน ทั้งกันเสียง กันร้อน กันชื้น กันไฟ น้ำหนักเบา ใช้งานทนทานในระยะยาว พร้อมรองรับการพัฒนาไปสู่ระบบ Smart Construction ที่ทางแบรนด์ให้ความสำคัญ
นี่คือตัวอย่างของนวัตกรมมวัสดุที่สะท้อนวิธีคิดของแบรนด์ Trandar Acoustics ว่าความยั่งยืนไม่ใช่แค่ลดคาร์บอน แต่ต้องสร้าง Enviroment ของการอยู่อาศัยที่ดีแก่ผู้คนอีกด้วย
ทั้งหมดนี้คือการพัฒนาวัสดุที่ไม่ใช่แค่ตอบโจทย์การใช้งาน แต่เป็นการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสู่อนาคตที่ยั่งยืนทั้งด้าน Low Carbon และ Wellness Life อย่างแท้จริง แล้วคอยติดตามกับนวัตกรรมวัสดุดีๆ ที่ Wazzadu.com จะมาแชร์ในครั้งต่อไปนะครับ
สนใจนวัตกรรมอะคูสติกติดต่อที่ Trandar Acoustics
https://www.facebook.com/trandaracoustic หรือ Tel : 02-722-7007
ผู้เขียนบทความ
โดยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงกลุ่มผู้ใช้งานต่างๆ ตั้งแต่ สถาปนิก แบรนด์สินค้า ผู้จัดจำหน่าย และผู้ให้บริการต่างๆที่เกี่ยวข้อง ผ่านทางฟีเจอร์ต่างๆดังนี้
Search - ค้นหา และจัดเก็บ ทั้งไอเดีย และสินค้า และบริการสำหรับการออกแบบตกแต่ง
Sourcing - จัดหาสินค้า และเปรียบเทียบราคาโดยการติดต่อ ผ่านแบรนด์ต่างๆ หรือบริการในแพลตฟอร์ม
Spec - เครื่องมือสเปคข้อมูลวัสดุ โดยแสดงข้อมูลเพื่อการออกแบบ เปรียบเทียบคุณสมบัติเชิงลึก ทั้งการติดตั้ง ขนาด ราคา และรีวิวการใช้งาน
แบรนด์ / ผู้จัดจำหน่ายสามารถเปิดโปรไฟล์ และอัพโหลดสินค้าได้ฟรี
ติดต่อเราที่ 02-714-0454
Email: contact@wazzadu.com ... อ่านเพิ่มเติม