เพราะความเงียบสัมพันธ์กับการออกแบบเสียง เพื่อสุขภาวะที่ดีในพื้นที่อยู่อาศัย
ในโลกปัจจุบันที่เต็มไปด้วยมลพิษทางเสียงอย่างต่อเนื่อง เพื่อนๆ ทราบกันไหมครับว่า “ความเงียบ” เองก็เป็นประเด็นสำคัญในด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ หากเราอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวนดังต่อเนื่อง เสียงนั้นจะไปกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนความเครียดแล้วส่งผลเสียต่อร่างกายและจิตใจ การออกแบบพื้นที่อยู่อาศัยที่ดีจึงรวมถึงการจัดการสภาพแวดล้อมทางเสียงให้เกื้อหนุนต่อการพักผ่อนได้อย่างเต็มที่
บทความในวันนี้ Wazzadu Low Carbon Material Library จะมาแชร์ความรู้ด้าน Wellness กันบ้างครับ มาดูกันว่าทำไมการออกแบบเสียงที่ดีต่อสภาวะการอยู่อาศัย ถึงสร้างพื้นที่ที่ส่งเสริมสุขภาพกายและใจอย่างยั่งยืนได้ครับ
ทำไมความเงียบถึงสำคัญต่อ Wellness?
ความเงียบไม่ใช่เพียงแค่การไม่มีเสียงนะครับ แต่เป็นสภาวะที่เปิดโอกาสให้ร่างกายได้เข้าสู่โหมดพักผ่อน อีกทั้งเป็นช่วงเวลาที่ให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง
งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์พบว่าช่วงเวลาที่เงียบสงบช่วยลดความดันโลหิต ลดอัตราการเต้นของหัวใจ ลดระดับคอร์ติซอล หรือฮอร์โมนความเครียด นอกจากนี้ยังกระตุ้นการสร้างเซลล์สมองใหม่ที่เกี่ยวข้องกับความจำและเพิ่มสมาธิกับช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ดังนั้น การออกแบบพื้นที่ที่เอื้อต่อความเงียบจึงเป็นรากฐานสำคัญของที่อยู่อาศัยเพื่อสุขภาพ
ซึ่งระดับเสียงเดซิเบลที่ไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพ จะเริ่มจากเสียงที่ดังเกิน 70 เดซิเบล ถ้าดังเป็นเวลานานอาจเริ่มทำลายการได้ยินของคุณ และเสียงที่ดังเกิน 120 เดซิเบลอาจเป็นอันตรายได้ ทำให้กฎหมายเกี่ยวกับเสียงดังในที่พักอาศัย ตามประกาศคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ฉบับที่ 15 (พ.ศ. 2540) เรื่อง กําหนดมาตรฐานระดับเสียงโดยทั่วไป ออกโดยอาศัยอํานาจตามมาตรา 32(5) แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษา คุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 โดยข้อ 2 ให้กําหนดมาตรฐานระดับเสียงเดซิเบลโดยทั่วไป ไว้ดังนี้
- ค่าระดับเสียงเดซิเบลสูงสุด ไม่เกิน 115 เดซิเบลเอ dB (A)
- ค่าระดับเสียงเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ไม่เกิน 70 เดซิเบลเอ dB (A)
แล้วเสียงแบบไหนที่ส่งเสริมเรื่อง Wellness
ขออธิบายเป็นลักษณะนี้นะครับว่า “เสียงที่ดีต่อสุขภาวะ” คือ เสียงที่ไม่รบกวนระบบประสาท เป็นเสียงที่ช่วยให้ผ่อนคลายและทำให้มีสมาธิ โดยสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มหลักๆ ได้แก่
1. เสียงธรรมชาติ : เช่น เสียงคลื่นทะเล เสียงน้ำไหลจากลำธาร เสียงฝนตกปรอยๆ หรือเสียงนกร้อง ช่วยลดความเครียดและสร้างความรู้สึกสงบทางจิตใจ
2. เสียงดนตรีเพื่อการผ่อนคลาย : ดนตรีบรรเลงที่ไม่มีเนื้อร้อง มีจังหวะช้า และนุ่มนวล เช่น ดนตรีคลาสสิก หรือแอมเบียนท์ (Ambient music) และแม้แต่ Sound Bath ที่เป็นเสียงจากขันทองเหลืองทิเบต, Singing bowl, crystal bowl หรือฆ้อง ก็เป็นการบำบัดด้วยเสียงกลายเป็นที่นิยมมากขึ้น
3. Noise Color หรือคลื่นเสียงเฉดสีต่างๆ ตัวอย่างที่นิยม คือ เสียงสีขาว (White Noise) : ด้วยความเข้มเท่ากันในความถี่ทุกช่วง และกลบเสียงรบกวนในเสียงแวดล้อมอื่นๆ เพื่อเพิ่มความผ่อนคลายทำให้นอนหลับดีขึ้น ประโยชน์ของเสียงสีขาวช่วยให้ผ่อนคลาย โดยในปี 1990 มีการวิจัยจากวารสาร Archives of Disease in Childhood รายงานว่า ทารกจะหลับเร็วขึ้นเมื่อสัมผัสกับเสียงสีขาว หรือผู้ที่เป็นโรคหูอื้อ สามารถบำบัดด้วยเสียงสีขาว รวมถึงการนำเสียงสีขาว มาช่วยบำบัดอาการนอนหลับยาก
กลยุทธ์การออกแบบพื้นที่อยู่อาศัย เพื่อให้มีเสียงที่ดีต่อสุขภาพ
แล้วเราจะออกแบบสภาพแวดล้อมทางเสียงที่ดีได้อย่างไร Wazzadu Low Carbon Material Library ขอแชร์แนวทางแบบองค์รวมที่สามารถช่วยป้องกันเสียงรบกวน โดยแบ่งออกเป็น 2 กลยุทธ์หลัก คือ
1. จัดการและลดเสียงรบกวนที่ไม่ต้องการ เพราะหัวใจสำคัญคือการป้องกันเสียงเข้าและลดเสียงสะท้อนภายในพื้นที่ที่เราอาศัยอยู่หรือกำลังใช้งาน สามารถจัดการได้ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบและการเลือกวัสดุที่มีคุณสมบัติกันเสียงหรือดูดซับเสียง ตลอดจนการจัดผัง Zoning ของห้องต่างๆ ให้ห่างจากแหล่งกำเนิดเสียงรบกวน อย่าง ถนนหรือร้านค้าที่มีการใช้เสียงประกอบ เป็นต้น
2. เพิ่มเสียงที่ดีต่อสุขภาวะ ไว้สร้าง Environment ที่ดี
สำหรับบางคน อาจจะต้องการเสียงที่ดีในเชิงบวกไว้ Healing หรือสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายขณะพักผ่อน สามารถออกแบบเสียงด้วยการเติมเต็มพื้นที่ที่มี ด้วยเสียงที่ส่งเสริมสุขภาพ ตัวอย่าง เช่น
- ออกแบบมุมน้ำพุตกแต่ง : เพราะน้ำพุขนาดเล็กสามารถสร้างเสียงน้ำไหลที่สม่ำเสมอ ช่วยสร้างความรู้สึกสงบและกลบเสียงรบกวนเล็กน้อยอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ออกแบบสไตล์ Biophilic Design : เมื่อดีไซน์ให้มีการเชื่อมโยงกับธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สวนหย่อมหรือออกแบบระเบียงเล็กๆ ตามคอนโด ต่างสามารถใช้เป็นพื้นที่เปิดรับเสียงจากธรรมชาติได้ ทั้งได้ฟังเสียงสายลม ได้สัมผัสแสงแดด และอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น
หรืออีกวิธีง่ายๆ คือใช้แอปพลิเคชันเปิดเสียงธรรมชาติ ไม่ก็เสียงดนตรีผ่อนคลายผ่านสมาร์ทโฟนเพื่อสร้างบรรยากาศก็ทำได้เช่นกัน
เพราะการออกแบบเสียงเพื่อสุขภาวะที่ดีไม่ใช่เรื่องซับซ้อน แต่เป็นการใส่ใจในรายละเอียดที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตของเรา ด้วยการผสมผสานทั้งความเงียบกับการใช้เสียงที่ดี ทำให้สามารถเปลี่ยนที่อยู่อาศัยให้เป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการฟื้นฟูร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ความรู้สึกอย่างแท้จริงครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก :
https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC2872309
https://www.healthaddict.com/content/urban_living/Silent-Spa
https://www.tools.in.th/sound-measurement/decibel-sound-level
https://www.thaipbs.or.th/now/content/546
ผู้เขียนบทความ
ด้วยการเกณฑ์การประเมินคาร์บอนฯ ที่แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่
1. Low Carbon CFO (Carbon Footprint for Organization) : การประเมิน carbon footprint ขององค์กร
2. Low Carbon CFP (Carbon Footprint of Product) : การประเมิน carbon footprint ของผลิตภัณฑ์
ทั้งนี้เพื่อผลักดันให้ผู้ผลิตและผู้พัฒนาวัสดุที่มีความมุ่งมั่นในการลดคาร์บอนจากวัสดุที่จำหน่าย มุ่งสู่เส้นทาง Low Carbon material ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทางโครงการมีการแบ่งเฟสที่บอกระดับว่าแต่ละองค์กรอยู่ที่จุดไหนแล้วบ้าง ได้แก่
Phase 1 : Committed เข้าร่วมโครงการ Wazzadu Low Carbon Material Library สู่เส้นทาง Low Carbon
Phase 2 : On-Track ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
Phase 3 : Achieved สามารถปล่อยคาร์บอนฯ ต่ำได้แล้วเมื่อเทียบจากครั้งก่อนๆ
หวังว่าห้องสมุดที่รวมวัสดุคาร์บอนฯ ต่ำนี้จะช่วยให้ทุกท่านได้พบกับวัสดุที่สามารถใช้ออกแบบให้เกิดเป็นสถาปัตยกรรมคาร์บอนต่ำได้จริง ... อ่านเพิ่มเติม