เปรียบเทียบคุณสมบัติในการใช้งาน กระจกสภาพการแผ่รังสีต่ำ กระจกสะท้อนรังสีอาทิตย์ และกระจกสีตัดแสง (Specification Performance : Low-e glass Vs. Reflective Glass Vs. Tinted Glass)

กระจกสภาพการแผ่รังสีต่ำ (Low-e glass)

คือ กระจกประหยัดพลังงาน ที่เคลือบเคลือบสารฉนวนกันรังสีอินฟาเรดหรือรังสีความร้อนไว้ ด้านในของกระจก (สารออกไซด์ของโลหะ เช่น เงิน หรือโลหะอื่น ๆ) เคลือบบาง ๆ บนผิวกระจก ทำให้สามารถช่วยควบคุมอุณหภูมิภายในอาคารได้ โดยลดความร้อนและรังสีจากแสงอาทิตย์ให้ผ่านเข้ามาน้อยลง แต่ยังคงให้แสงสว่างผ่านได้ดี

คุณสมบัติเด่นของกระจกสภาพการแผ่รังสีต่ำ

  • สะท้อนความร้อน ช่วยประหยัดพลังงาน
  • ป้องกันรังสี UV ป้องกันไม่ให้เฟอร์นิเจอร์ พื้นไม้ และผ้าม่านซีดจางก่อนเวลาอันควร และช่วยยืดอายุการใช้งานของวัสดุตกแต่งภายในบ้าน
  • กระจก Low-E แบบเคลือบแข็งมีคุณสมบัติที่ให้แสงผ่านได้มากถึง 80% ทำให้ภายในอาคารยังคงสว่าง แต่ยังช่วยลดความร้อนจากภายนอกอาคารได้
  • เนื่องจากผิวเคลือบแข็ง จึงไม่เกิดสนิมหรือความเสียหาย แม้จะใช้เป็นกระจกแผ่นเดี่ยว ไม่ต้องจับคู่กับกระจกชั้นอื่นเหมือนกระจกเคลือบอ่อนบางชนิด
  • ทนทานต่อรอยขีดข่วน ดูแลรักษาง่าย
  • สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในงานหลากหลายรูปแบบ

กระจกสะท้อนรังสีอาทิตย์ (Reflective Glass)

คือ กระจกเคลือบผิวออกไซด์ความโปร่งแสงต่ำ เพื่อสะท้อนความร้อนและแสงแดดส่วนเกินกลับออกไปได้ประมาณ 30% ช่วยลดความร้อนเข้าสู่อาคาร ลดภาระเครื่องปรับอากาศ ประหยัดพลังงาน และยังช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว โดยทำให้คนภายนอกมองเข้าข้างในได้ยาก แต่คนข้างในมองออกไปได้สะดวก มีหลากหลายสีสันให้เลือก ขึ้นอยู่กับรูปแบบการเคลือบและสีของกระจกซึ่งเป็นวัตถุดิบที่นำมาเคลือบ

คุณสมบัติเด่นของกระจกสะท้อนรังสีดวงอาทิตย์

  • สะท้อนความร้อนและรังสีจากดวงอาทิตย์ที่จะเข้ามาภายในอาคาร ในกรณีที่ใช้กระจกโฟลตสีตัดแสงเคลือบเป็นกระจกสะท้อนแสงจะช่วยลดค่าการส่งผ่านพลังงานความร้อนเข้ามาภายในอาคารได้มากกว่า 50%
  • ช่วยลดแสงสว่างที่จ้าเกินไปให้เบาลง สบายตา
  • ยืดอายุการใช้งานของวัสดุตกแต่งภายในอาคาร รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ
  • สร้างความเป็นส่วนตัวแก่คนภายในอาคาร เนื่องจากคนภายนอกมองทะลุเข้ามาภายในได้ลำบาก แต่คนภายในมองออกไปได้
  • มีสีสันหลากหลายและเงางาม ทำให้อาคารดูโดดเด่นมีเอกลักษณ์

กระจกสีตัดแสง (Tinted Glass)

คือ กระจกที่มีส่วนประกอบเดียวกับกระจกใส แต่เพิ่มออกไซด์ของโลหะชนิดต่าง ๆ เข้าไปในน้ำกระจกในระหว่างขั้นตอนการหลอมกระจกโฟลต  ซึ่งพวกโลหะเหล่านี้จะเป็นตัวที่ทำให้สีในเนื้อกระจกเข้มขึ้นและสามารถปรับส่วนประกอบของโลหะรวมถึงปริมาณที่ผสมเข้าไป เพื่อให้ได้เฉดสีและความเข้มของกระจกตามที่ต้องการ ยิ่งกระจกมีสีเข้มก็จะยิ่งมีค่าการดูดกลืนพลังงานความร้อนมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย

คุณสมบัติเด่นของกระจกกันเสียง

  • กระจกสีตัดแสงดูดซับพลังงานแสงอาทิตย์ได้ดีกว่ากระจกใส ทำให้ลด Solar Heat Gain เข้าสู่อาคารได้ เหมาะกับงานที่ต้องการควบคุมค่า SHGC และความร้อนรวมของผนังกระจก
  • ให้ความเย็น และความสว่างปลอดโปร่ง
  • ช่วยลดแสงจ้า (Glare Control) ให้นุ่มนวลและเกิดความสบายตาเหมาะกับพื้นที่ทำงาน หน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือโถงที่รับแสงมาก
  • ลดการรับความร้อนที่เข้าสู่ตัวอาคาร ช่วยประหยัดพลังงานภายในอาคาร
  • เฉดสีของกระจกช่วยพรางสายตาจากภายนอกโดยเฉพาะเฉดสีเข้ม ช่วยสร้างความรู้สึกปิดทึบและคุมโทนพื้นที่ ความเป็นส่วนตัวสูงขึ้น
  • ให้โทนสีที่เป็นเอกลักษณ์ช่วยเพิ่มมิติทางสถาปัตย์ สามารถนำไปใช้ในงานภายในเพื่อสร้างบรรยากาศ เช่น ผนังกั้น ห้องน้ำ บันได ฯ

แพลตฟอร์ม และเครื่องมือสำหรับการออกแบบตกแต่งบ้าน และงานสถาปัตยกรรม
โดยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงกลุ่มผู้ใช้งานต่างๆ ตั้งแต่ สถาปนิก แบรนด์สินค้า ผู้จัดจำหน่าย และผู้ให้บริการต่างๆที่เกี่ยวข้อง ...

บทความอื่นๆ จากผู้เขียน

...

โพลสำรวจ

ถาม-ตอบ

Wazzadu.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานของคุณ