10 อันดับเทรนด์การออกแบบออฟฟิศ ปี 2025 (The top 10 office design trends for 2025)

ยุคสมัยเปลี่ยนผ่านจากการทำงานนั่งโต๊ะแบบคอก ปัญหาสุขภาพกายและสุขภาพจิตใจของพนักงานจากการนั่งทำงานทั้งวันในห้องสี่เหลี่ยม ร่วมกับเหตุการณ์โรคระบาดที่เปลี่ยนวิถีชีวิตของคนไปอย่างสิ้นเชิง ทำให้สำนักงานต้องปรับตัวไปด้วย วันนี้ Wazzadu Encyclopedia จะพาไปดูกันว่าเทรนด์การออกแบบสำนักงานในยุคนี้เป็นอย่างไร ไปชมกันครับ

1.Hybrid Workspaces

ผลกระทบจากเหตุการณ์โควิด 19 ที่พนักงานต้องทำงานแบบ Work from home และเปลี่ยนมาเป็นแบบ Hybrid และ Work from anywhere ในเวลาต่อมา สำนักงานในยุคปัจจุบันจึงถูกออกแบบมาเพื่อให้รองรับการทำงานแบบนี้ได้ จัดเตรียมพื้นที่ สิ่งอำนวยความสะดวกและเทคโนโลยีที่รองรับให้แก่พนักงานที่ต้องทำงานทางไกล โดยยังมีสำนักงานเป็นศูนย์กลาง แต่ก็ยังมอบความยืดหยุ่นให้แก่การทำงานด้วย ตัวอย่างเช่น ห้องประชุมแบบ Virtual Meeting, โต๊ะทำงานแบบ Co-Working Space เป็นต้น

เช่น Microsoft Envisioning Center / Studio O+A

2. Technology Integration

การบูรณาการเทคโนโลยีเข้ากับสำนักงาน เพื่อช่วยสนับสนุนการทำงานของพนักงานได้อย่างชาญฉลาดและสะดวกสบาย สำหรับอาคารสำนักงานนั้น การมีตัวช่วยอย่างเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบ จะเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มากขึ้น ทำให้ทำงานได้คล่องตัว ตอบสนองทุกความต้องการ เช่น 

  • Occupancy Sensors เป็นอุปกรณ์ภายในอาคารที่ใช้ตรวจจับการมีอยู่ของบุคคลหนึ่ง เพื่อปรับแสง อุณหภูมิหรือระบบระบายอากาศโดยอัตโนมัติตามปริมาณคนที่อยู่ใสนห้องประชุมนั้น ๆ
  • Smart LED และ ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ
  • แอปพลิเคชันสำหรับจองห้องประชุม หรือสิ่งอำนวยความสะดวกในอาคาร
  • Voice assistant technologies สำหรับการสั่งการด้วยเสียง ลดการสัมผัส
  • ป้ายดิจิตอลสำหรับช่วยหาห้อง หรือทางไปยังที่ต่าง ๆ

อีกทั้งการบูรณาการเทคโนโลยีนี้ยังช่วยให้สำนักงานสามารถควบคุมหรือตรวจสอบระบบต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น เช่น ระบบปรับอากาศ ตรวจสอบติดตามการปล่อยคาร์บอน เป็นต้น

เช่น Apple Park in Cupertino, California

3. Biophilic design

การออกแบบที่ดึงธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมให้อยากทำงาน หรือลดความเครียดที่เกิดจากการทำงานในห้องสี่เหลี่ยม ผลจากงานวิจัยกล่าวว่าการออกแบบแบบ Biophilic จะทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ กระตุ้นความตื่นตัว เพราะแสงจากธรรมชาติและสีเขียวจากเหล่าต้นไม้ ผ่านการออกแบบที่ดูโปร่งโล่ง ได้รับแสง ตกแต่งด้วยต้นไม้และวัสดุธรรมชาติ เพียงเท่านี้สำนักงานก็ดูไม่น่าเบื่ออีกต่อไป

เช่น Amazon Spheres / NBBJ

4. Flexible and modular spaces

หมดยุคโต๊ะทำงานแบบคอกกั้น หรือโต๊ะเรียงยาวที่เต็มไปด้วยของรกรุงรังแล้ว สำนักงานสมัยใหม่ต้องออกแบบให้มีความยืดหยุ่น ใช้พื้นที่ร่วมกันแต่ก็แยกออกไปเดี่ยว ๆ ได้ ผ่านการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เคลื่อนย้ายสะดวก พาทิชันกั้นพื้นที่ ที่เปลี่ยนไปได้ตามความต้องการ การออกแบบที่คล่องตัวนี้เองจะช่วยให้พนักงานสามารถเลือกสถานที่ทำงานได้อย่างอิสระ จะรวมโต๊ะเพื่อพูดคุยหรือแยกไปนั่งทำงานเงียบ ๆ เนื่องจากต้องการใช้สมาธิก็ได้ 

เช่น Microsoft's Redmond Campus

5. Sustainability and eco-friendly practices

ความยั่งยืนเป็นประเด็นสำคัญของการออกแบบในยุคปัจจุบันอย่างมากโดยเฉพาะในการออกแบบสำนักงาน เพราะปัญหาโลกเดือดเป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ สำนักงานเองก็ต้องปรับตัวเพราะนอกเหนือจากเรื่องลดการใช้พลังงานในอาคารแล้ว ยังมีเรื่องของการปล่อยคาร์บอน การหมุนเวียนพลังงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด ฯ

แนวทางในการออกแบบสำนักงานให้ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

  • การกำจัดและรีไซเคิลขยะที่เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ
  • ออกแบบและก่อสร้างโดยเลือกใช้วัสดุ สีทาอาคาร เฟอร์นิเจอร์ ที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ ปลอดสารพิษ
  • ระบบเซนเซอร์ตรวจกับการเคลื่อนไหวเพื่อช่วยควบคุมการปล่อยพลังงาน และลดการสูญเสียพลังงาน
  • แหล่งพลังงานทดแทน เช่น พลังงานจากโซลาร์เซลล์ การหมุนเวียนน้ำมาใช้ในอาคาร
  • ตู้เติมน้ำแทนการใช้ขวดพลาสติก
  • ที่จอดจักรยานและสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

สำนักงานที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากกำไรที่ได้จากการประหยัดพลังงานและแสดงถึงความมุ่งมั่นในการมีส่วนช่วยโลกแล้ว ยังทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์เป็นไปในทางที่ดีในยุคที่ผู้บริโภคใส่ใจต่อประเด็นโลกร้อนอีกด้วย

เช่น The Edge / PLP Architecture

6. Mental health and well-being focus

แน่นอนว่าสุขภาพจิตใจเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้คนที่ต้องทำงานหลายชั่วโมงต่อวันในสำนักงาน เพราะปัญหาสุขภาพจิตใจอันเกิดจากความเครียดในการทำงานเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม การออกแบบเพื่อส่งเสริมสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานคือหนึ่งในเทรนด์สำคัญของการออกแบบสำนักงานในยุคปัจจุบัน  ผ่านแนวทางการออกแบบ

  • ออกแบบให้สงบ ช่วยให้เกิดสมาธิ
  • การเข้าถึงธรรมชาติ
  • เฟอร์นิเจอร์ตามหลักสรีรศาสตร์ 
  • สิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ห้องออกกำลังกายหรือเส้นทางเดิน
  • นโยบายที่สนับสนุนความสมดุลระหว่างชีวิตกับการทำงาน 
  • พื้นที่ทำงานร่วมกัน
  • ช่วยสร้างความสัมพันธ์ทางสังคมและชุมชน

เช่น Bellerivestrasse 36 Zürich Office Building / C.F. Møller

7. Inclusive design

การออกแบบสำหรับทุกคน เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้งานได้อย่างเท่าเทียมและมีประสิทธิภาพมากที่สุด

  • การปฏิบัติตาม ADA และการเข้าถึงสำหรับพนักงานที่มีความสามารถแตกต่างกัน สามารถรองรับบุคคลที่มีความทุพพลภาพ
  • พื้นที่ที่เป็นกลางทางเพศ เช่น ห้องน้ำ
  • ห้องสวดมนต์ ห้องนั่งสมาธิ
  • โต๊ะและเก้าอี้ตามหลักสรีรศาสตร์สำหรับสรีระทุกสัดส่วน
  • ป้ายบอกทางและการนำทางในหลายภาษา
  • แสงธรรมชาติเพื่อให้พลังงานช่วยกระตุ้นให้ตื่นตัว
  • การจัดให้มีการตั้งค่าการทำงานที่หลากหลาย

การเปิดโอกาสเพื่อรองรับสำหรับทุกคนทำให้รู้สึกถึงการถูกยอมรับ มีคุณค่า รู้สึกว่าตนเองนั้นก็ทำได้ อีกทั้งบริษัทที่เปิดโอกาสกว้างขวาง ก็จะประสบความสำเร็จมากกว่าในแง่ของการดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถสูง และทำผลงานได้ดีกว่ามาตรฐานในอุตสาหกรรมถึง 36 %

เช่น Atelier Alice Trepp

8. Multi-functional spaces

ปัจจุบันสำนักงานต่าง ๆ ได้ผสานรวมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เพื่อรองรับทั้งการทำงานและให้ความเป็นอยู่ที่ดีตลอดทั้งวัน

มีสถานที่สร้างสรรค์ เช่น โรงยิม ห้องพักผ่อน ห้องนวด และเลานจ์เกม ควบคู่ไปกับสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ร้านกาแฟและห้องสมุด ห้องทำสมาธิและพื้นที่เพื่อสุขภาพ สำนักงานบางแห่งยังเกิดไอเดียให้มีบาร์แบบใต้ดินหรือเลานจ์ที่ซ่อนอยู่ด้วย

เรียกว่าสำนักงานในปัจจุบันมีจุดมุ่งหมายที่อยากให้มีสภาพแวดล้อมที่ครอบคลุมทุกด้าน ซึ่งสนับสนุนนวัตกรรมและหล่อเลี้ยงวัฒนธรรมขององค์กร โดยผสมผสานการทำงาน การพักผ่อน และการฟื้นฟูเข้าด้วยกัน พนักงานสามารถเปลี่ยนผ่านจากการทำงานร่วมกัน เป็นการทำงานที่มีสมาธิ หรือทำกิจกรรมผ่อนคลายได้ตามความต้องการโดยไม่ติดขัด

เช่น Wework office

9. Colour psychology and aesthetics

การเลือกใช้สีและสุนทรียภาพในการออกแบบก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะมีการพิสูจน์ว่าสีนั้นส่งผลต่ออารมณ์ โทนสีที่สดใสและมีชีวิตชีวาช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ในขณะที่โทนสีเอิร์ทโทนจะช่วยส่งเสริมการผ่อนคลายและสมาธิ ขณะที่สีโทนเย็น เช่น สีน้ำเงินหรือสีเขียวจะทำให้รู้สึกสบาย ๆ

สำนักงานสมัยใหม่ยังใช้สีเพื่อเสริมสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์โดยนำสีของบริษัทมาใช้ทั่วทั้งพื้นที่ ดังนั้นการสร้างบรรยากาศผ่านการใช้สีเป็นอีกเทรนด์ที่ยังคงสำคัญในการออกแบบสำนักงานนั่นเอง

เช่น Google office

10. Local culture and brand integration

บริษัทชั้นนำต่างนำเอาวิถีชีวิต วัฒนธรรมของตนเองออกมานำเสนอ ผ่านการแทรกไปในการออกแบบ เพื่อรำลึกถึงและนำเสนอคุณค่าของวัฒนธรรมรากเหง้าของตน ตัวอย่างเช่น

  • ภาพจิตรกรรมฝาผนังหรือผลงานศิลปะจากศิลปินท้องถิ่น
  • ไม้รีไซเคิลหรือวัสดุธรรมชาติในท้องถิ่น
  • รายละเอียดการออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่สะท้อนประวัติศาสตร์
  • การจัดสวนที่สะท้อนวัฒนธรรมพื้นถิ่น
  • เมนูคาเฟ่ที่มีอาหารท้องถิ่น
  • ความร่วมมือกับธุรกิจในชุมชน

เช่น maoom office / Design Studio Maoom

สำนักงานยุคใหม่ที่ผสมผสานแรงบันดาลใจจากบริบทแวดล้อมและความเป็นตัวตนได้ ก็จะสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรและสอดคล้องกับแบรนด์ซึ่งพนักงานสามารถภาคภูมิใจไปด้วยได้

ทั้งหมดนี้คือ 10 อันดับเทรนด์การออกแบบสำนักงาน ในปี 2025 ที่เราจะได้เห็นว่าความเป็นอยู่ของคนและธรรมชาติยังคงเป็นเรื่องสำคัญอยู่เสมอ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่สำนักงานที่น่าทำงานก็ดึงดูดให้คนเก่ง ๆ อยากจะเข้ามาทำงานยังองค์กรได้อีกด้วยครับ

แพลตฟอร์ม และเครื่องมือสำหรับการออกแบบตกแต่งบ้าน และงานสถาปัตยกรรม
โดยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงกลุ่มผู้ใช้งานต่างๆ ตั้งแต่ สถาปนิก แบรนด์สินค้า ผู้จัดจำหน่าย และผู้ให้บริการต่างๆที่เกี่ยวข้อง ...

บทความอื่นๆ จากผู้เขียน

โพสต์เมื่อ

การออกแบบ และเลือกใช้วัสดุ
ระบบสุขาภิบาลในอาคาร Building sanitary system

โพสต์เมื่อ

โพสต์เมื่อ

ไอเดียมาใหม่

โพสต์เมื่อ

การออกแบบ และเลือกใช้วัสดุ
ระบบสุขาภิบาลในอาคาร Building sanitary system

โพสต์เมื่อ

บทความที่เกี่ยวข้อง

...

โพลสำรวจ

ถาม-ตอบ

Wazzadu.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานของคุณ