ข้อดี ข้อควรระวังและข้อแนะนำในการใช้กระจกลามิเนต (Advantages, precautions and recommendations for using laminated glass)

กระจกลามิเนต

คือ กระจกนิรภัยที่ประกอบด้วยกระจกตั้งแต่ 2 แผ่นขึ้นไป ยึดติดกันด้วยฟิล์มพลาสติกเหนียว เช่น ฟิล์ม PVB (Poly Vinyl Butyral) หรือ SGP (Sentry Glass) มาวางไว้ตรงกลาง ก่อนจะปล่อยกระจกแผ่นที่ 2 เข้ามาวางทับกระจกแผ่นแรกให้พอดีกัน ทำให้เมื่อกระจกแตก เศษกระจกจะยึดติดอยู่กับฟิล์ม ไม่ร่วงหล่น จึงมีความปลอดภัยสูง

คุณสมบัติเด่นของกระจกลามิเนต

• เมื่อกระจกได้รับความเสียหายจนเกิดการแตก เศษกระจกจะไม่ร่วงหล่นลงมา ซึ่งช่วยลดอันตรายต่อผู้ใช้งานอาคาร
• ช่วยป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก และเก็บเสียงได้ดีกว่ากระจกธรรมดา
• ช่วยป้องกันความร้อนได้ดี กันรังสียูวีได้มากกว่า 90 %
• ทนต่อแรงดันลมในที่สูง ทนต่อแรงอัดกระแทก และช่วยป้องการบุกรุกจากการโจรกรรมได้
• สามารถเคลือบสีได้ตามความต้องการ
• ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ และมีอายุการใช้งานยาวนาน

ข้อควรระวังของกระจกลามิเนต

• เมื่อเทียบความหนาในขนาดเดียวกัน กระจกนิรภัยลามิเนตจะรับแรงได้น้อยกว่ากระจกธรรมดา เช่น กระจกลามิเนต 4 มม. + ฟิล์ม + 4 มม. จะรับแรงกระแทกได้น้อยกว่า กระจกใสธรรมดาที่หนา 8 มม.
• ฟิล์ม PVB มีคุณสมบัติดูดความชื้น จึงทำให้ถ้าใช้กระจกนี้บริเวณที่มีความชื้นสูง จะทำให้การยึดเกาะระหว่างกระจกและฟิล์มไม่ดี และอาจเกิดการแยกตัวออกจากกันได้

ข้อแนะนำในการใช้กระจกลามิเนต

1. การเลือกใช้งานให้เหมาะสม

• ใช้ในพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น หน้าต่างอาคารสูง, กันตกระเบียง, ราวกันตก, หลังคากระจก, ห้องอาบน้ำ หรือโชว์รูมรถยนต์
• เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการกันเสียงหรือกันรังสี UV เช่น ห้องประชุม, สตูดิโอ, โรงแรม หรือบ้านพักอาศัยใกล้ถนนใหญ่
• หากต้องการความทนต่อแรงกระแทกสูงมาก (เช่น สนามกีฬา, อาคารที่เสี่ยงต่อการระเบิด)ควรเลือก กระจกลามิเนตชนิดเทมเปอร์ (Tempered Laminated Glass) จะปลอดภัยกว่า

2. การติดตั้งกระจกลามิเนต

• ควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญติดตั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าการรองรับน้ำหนักและการปิดผนึกขอบกระจกถูกต้อง
• ใช้ซิลิโคนหรือซีลแลนท์คุณภาพสูง ป้องกันความชื้นเข้าสู่ขอบกระจก
• ระวังการกระแทกบริเวณขอบกระจกขณะติดตั้ง เพราะขอบเป็นจุดที่เปราะบางที่สุด
• ห้ามตัด เจาะ หรือดัดกระจกหลังจากลามิเนตแล้ว ต้องทำก่อนการประกบกระจกเท่านั้น

3. การดูแลรักษา

• ทำความสะอาดด้วยน้ำสบู่อ่อนหรือผลิตภัณฑ์เฉพาะสำหรับกระจก
• หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีแรง เช่น น้ำยากัดกรด หรือผงขัด
• เช็ดให้แห้งเสมอ โดยเฉพาะบริเวณขอบกระจกเพื่อป้องกันการซึมของความชื้น
• ตรวจสอบสภาพซีลและขอบกระจกเป็นประจำ หากเริ่มลอกหรือเป็นฝ้า ควรซ่อมแซมทันที

4. การใช้งานในพื้นที่พิเศษ

• กลางแจ้งหรือโดนแดดจัด ควรเลือกฟิล์มลามิเนตที่มีคุณสมบัติ กันรังสี UV และทนต่อความร้อน
• พื้นที่ชื้น เช่น ห้องน้ำ หรือสระว่ายน้ำต้องเลือกฟิล์ม EVA หรือ SGP แทน PVB เพราะทนความชื้นได้ดีกว่า
• ในอาคารสูงแนะนำให้ใช้กระจกลามิเนตชนิดเทมเปอร์ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยหากเกิดการแตก

5. การตรวจสอบคุณภาพก่อนใช้งาน

• ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากระจกมี ใบรับรองมาตรฐาน (เช่น มอก. หรือ ASTM)
• ตรวจดูว่าไม่มี ฟองอากาศ, คราบ, หรือการแยกชั้น (Delamination) ระหว่างแผ่นกระจก