ข้อดี-ข้อเสียและข้อควรระวังในการใช้งานของกระจกเทมเปอร์ (Advantages, precautions and recommendations for using Tempered Glass)
กระจกเทมเปอร์
คือ กระจกนิรภัยประเภทหนึ่ง ซึ่งผ่านกระบวนการทางความร้อนสูงประมาณ 600 องศาเซลเซียส แล้วนำมาเป่าด้วยลมแรงดันสูงให้เย็นตัวลงทันที เพื่อให้กระจกเกิดความแข็งแกร่งกว่าเดิม 3-5 เท่า ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ และมีความปลอดภัยมากขึ้น ในกรณีที่กระจกเทมเปอร์เกิดการแตกหัก จะแตกออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ คล้ายเมล็ดข้าวโพด ซึ่งมีความแหลมคมไม่มาก ทำให้มีโอกาสเกิดอันตรายน้อยกว่ากระจกธรรมดา เหมาะสำหรับงานที่มีความเสี่ยงต่อการแตกร้าวและต้องการความปลอดภัยที่เกิดจากกระจกแตกร้าว
คุณสมบัติเด่นของกระจกเทมเปอร์
- แข็งแรงกว่ากระจกธรรมดา 4–5 เท่า
- เมื่อกระจกแตก จะแตกเป็นเมล็ดเล็ก ๆ คล้ายเมล็ดข้าวโพดไม่แหลมคมมาก ทำให้ลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บได้
- ทนต่อแรงกระแทก แรงดันลม และแรงสั่นสะเทือนสูง เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัย เช่น หน้าต่าง อาคารสูง ประตูบานเลื่อน ฯลฯ
- ทนความร้อนได้ประมาณ 200–300°C และไม่แตกง่ายเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนกะทันหัน เช่น จากร้อนจัดไปเย็นจัด
- ค่าความแข็งแรงต่อแรงดึง และแรงที่ทำให้หักงอ (Bending Strength) เมื่อเปรียบเทียบระหว่าง กระจกธรรมดากับกระจกนิรภัยเทมเปอร์ ที่ความหนา 5 มม. กระจกธรรมดามีค่าความแข็งแรงต่อแรงดึงและแรงที่ทำให้กระจกหักงอ 500- 600 กก./ซม.2 ส่วนกระจกนิรภัยเทมเปอร์มีค่าสูงถึง 1,500 กก./ซม.
- ความทนทานของกระจกต่อสภาวะการเปลี่ยนแปลง อุณหภูมิแบบฉับพลัน จากการทดสอบความสามารถในการต้านทานความร้อนของกระจกนิรภัยเทมเปอร์เปรียบ เทียบกับกระจกพื้นฐาน หรือกระจกเคลือบผิวที่ความหนา 5 มม.
ข้อควรระวังของกระจกเทมเปอร์
- ไม่สามารถตัดหรือเจาะกระจกเทมเปอร์ได้หลังจากอบแล้วต้องตัด เจาะ หรือบากรูให้เรียบร้อยก่อนนำไปอบ เพราะหากทำภายหลังจะทำให้กระจกแตกทันที
- ราคาสูงกว่ากระจกธรรมดา ประมาณ 2–3 เท่า เนื่องจากต้องผ่านกระบวนการอบความร้อนพิเศษ
- อาจเกิดการแตกเอง (Spontaneous Breakage) แม้จะเกิดไม่บ่อย แต่มีโอกาสแตกเองจากความเค้นภายในหรือสิ่งเจือปน เช่น สารนิกเกิลซัลไฟด์
- เมื่อกระจกเทอเปอร์แตกแล้วไม่สามารถซ่อมได้ ต้องเปลี่ยนทั้งแผ่น
- เนื่องด้วยกระจกนิรภัยเทมเปอร์เป็นกระจกที่ผ่านกระบวนการความร้อนสูงจนทำให้กระจกนิ่มและกลิ้งไปกับลูกกลิ้ง จึงทำให้กระจกเกิดการเป็นคลื่นและมีความโก่งตัวเล็กน้อย
ข้อแนะนำในการใช้กระจกเทมเปอร์
- เนื่องจากกระจกนิรภัยเทมเปอร์ไม่สามารถ ตัด เจาะ เจีย บาก ได้ หลังการผลิตดังนั้นการวัดพื้นที่ที่จะนำกระจกมาติดตั้งจำเป็นต้องวัดอย่างระมัดระวัง และควรใช้เป็นหน่วยมิลลิเมตรในการวัดเพื่อความแม่นยำ
- ไม่ควรใช้กระจกนิรภัยเทมเปอร์เดี่ยว ๆ เป็นหลังคา เป็นผนังภายนอกอาคารบริเวณชั้นสูง ๆ เพราะหากกระจกแตก จะร่วงลงมาเป็นอันตรายต่อคนข้างล่างได้
- ไม่ควรใช้กระจกนิรภัยเทมเปอร์เดี่ยว ๆ เป็นพื้นหรือเป็นขั้นบันได เพราะหากกระจกแตก ผู้เดินจะได้รับอันตรายพลัดตกลงมาได้
- ห้ามใช้กระจกนิรภัยเทมเปอร์ทดแทนกระจกกันไฟ เพราะกระจกนิรภัยเทมเปอร์ไม่สามารถกันไฟเพื่อความปลอดภัยต่อผู้อาศัยตามข้อกำหนดของการกันไฟได้
- การทำความสะอาดอย่างถูกวิธี แนะนำให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดกระจกทั่วไปหรือผ้าชุบน้ำสบู่อ่อน ๆ หลีกเลี่ยงน้ำยาที่มีฤทธิ์กัดกร่อน เช่น แอมโมเนีย หรือกรด และไม่ควรใช้สก็อตไบร์ทหรือวัสดุขัดผิวหยาบ
- ควรเลือกผู้ผลิตที่ผ่านมาตรฐาน เช่น มอก. 965-2552 หรือ ISO 9001 หากต้องการความปลอดภัยสูง ควรเลือกกระจกที่ผ่านการทดสอบ Heat Soak Test (HST)
- ควรตรวจสอบสภาพกระจกเป็นระยะ หากพบรอยร้าว รอยบิ่น หรือขอบกระจกเสียหายควรเปลี่ยนใหม่ทันที อย่าฝืนใช้งาน เพราะกระจกอาจแตกโดยไม่คาดคิด
ผู้เขียนบทความ
โดยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงกลุ่มผู้ใช้งานต่างๆ ตั้งแต่ สถาปนิก แบรนด์สินค้า ผู้จัดจำหน่าย และผู้ให้บริการต่างๆที่เกี่ยวข้อง ... อ่านเพิ่มเติม