มาตรฐานรับรองด้านสิ่งแวดล้อมที่ควรรู้ ในการใช้คอนกรีตสำเร็จรูป ในงานออกแบบก่อสร้างอาคารคาร์บอนต่ำ
เทรนด์การออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อมที่กำลังมาแรงในขณะนี้ ทำให้มาตรฐานรับรองด้านสิ่งแวดล้อมมีผลต่อการเลือกใช้คอนกรีตสำเร็จรูป (Precast Concrete) เป็นอย่างมาก เนื่องจากมีบทบาทสำคัญในการกำหนดแนวทางการเลือกใช้วัสดุในงานก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมาตรฐานเหล่านี้จะมีผลต่อการออกแบบ การผลิต การขนส่ง และการใช้งานคอนกรีตในโครงการก่อสร้างอย่างครอบคลุม เราไปทำความรู้จักกับตัวอย่างมาตรฐานรับรองด้านสิ่งแวดล้อมที่ควรรู้กันครับ
มาตรฐานรับรองด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ
1. LEED (Leadership in Energy and Environmental Design)
มาตรฐานอาคารเขียวจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งให้คะแนนอาคารตามการใช้วัสดุ การจัดการพลังงาน น้ำ และของเสีย
มาตรฐานอาคารเขียวจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งให้คะแนนอาคารตามการใช้วัสดุ การจัดการพลังงาน น้ำ และของเสีย
การใช้คอนกรีตสำเร็จรูปที่มีคุณสมบัติลดคาร์บอนหรือผลิตจากวัสดุรีไซเคิล จะช่วยให้อาคารได้รับคะแนน LEED เพิ่มขึ้น
2.Carbon Footprint Label (CFP) ฉลากคาร์บอน จาก GTO
แสดงปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่การผลิต วัสดุ ขนส่ง การใช้งาน และการกำจัด ซึ่งส่งผลต่อการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ แสดงปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาตลอดวงจรชีวิตของคอนกรีต
ผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปที่มีฉลากนี้ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้วัสดุที่มีการปล่อยคาร์บอนต่ำ
มีทั้งระดับ CFP (Carbon Footprint of Product) และ CFL (Carbon Footprint Reduction Label)
3.TREES – มาตรฐานอาคารเขียวไทย
ส่งผลต่อการเลือกวัสดุเพื่อให้ผ่านเกณฑ์อาคารเขียว เพราะการเลือกใช้คอนกรีตสำเร็จรูปที่มีการรับรองคาร์บอนต่ำ ช่วยให้ได้คะแนนในหมวดวัสดุและทรัพยากร (Materials & Resources)
ส่งผลโดยตรงต่อการได้คะแนนและระดับการรับรองของอาคาร เช่น TREES Silver
การใช้คอนกรีตสำเร็จรูปที่มีคุณสมบัติลดคาร์บอน จะช่วยให้อาคารผ่านเกณฑ์ TREES ได้ง่ายขึ้น
4.มาตรฐานฉลากเขียว
มาตรฐานที่รับรองผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์หรือบริการอื่นในประเภทเดียวกัน โดยต้องผ่านการตรวจสอบตามข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม และมีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด มาตรฐานนี้ออกโดยองค์กรอิสระ เพื่อให้ข้อมูลแก่ผู้บริโภคและส่งเสริมการผลิตและบริโภคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
5.มาตรฐาน ISO 14001 (Environmental Management System) จาก ISO
เป็นมาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมระดับสากล ซึ่งส่งผลต่อกระบวนการผลิตคอนกรีตสำเร็จรูป โดยโรงงานที่ได้รับ ISO 14001 จะมีการบริหารจัดการผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การลดการใช้พลังงาน, การจัดการของเสีย, การใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
ช่วยควบคุมผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการผลิตและการใช้งานคอนกรีตสำเร็จรูป
โรงงานผลิตคอนกรีตที่ได้รับ ISO 14001 จะแสดงถึงการมีระบบควบคุมสิ่งแวดล้อมที่ดี เช่น การลดของเสีย ลดการใช้น้ำและพลังงาน
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการใช้มาตรฐานเหล่านี้
- เน้นการเลือกใช้วัสดุที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ผลักดันให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีและวัสดุก่อสร้างทางเลือก เช่น คอนกรีตคาร์บอนต่ำ คอนกรีตรีไซเคิล หรือการใช้วัสดุทดแทนปูนซีเมนต์ เช่น fly ash, slag
- ส่งเสริมให้เกิดกระบวนการผลิตที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ เช่น ใช้พลังงานทดแทนหรือระบบหมุนเวียนพลังงานนำกลับมาใช้ใหม่ มีระบบจัดการของเสีย น้ำเสีย และฝุ่นละออง เช่น การบำบัดน้ำก่อนปล่อยออกสู่ธรรมชาติ การรีไซเคิลน้ำในการผสมคอนกรีต
- มาตรฐานสิ่งแวดล้อมหลายรายการเชื่อมโยงกับกฎหมาย เช่น พ.ร.บ.โรงงาน หรือข้อกำหนดด้านการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หากไม่มีการรับรองหรือไม่ผ่านเกณฑ์ อาจถูกปฏิเสธใบอนุญาต หรือมีผลต่อการต่อสัญญา
- ยกระดับภาพลักษณ์ขององค์กรหรือโครงการให้สามารถประชาสัมพันธ์และสร้างความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้ใช้
- ช่วยให้องค์กรสามารถ คัดเลือกผู้ผลิต/ซัพพลายเออร์ ที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมได้ชัดเจน
- เพิ่มโอกาสทางการตลาดและการแข่งขัน เพราะบริษัทที่ได้รับมาตรฐานรับรองด้านสิ่งแวดล้อม จะมีความน่าเชื่อถือและมีโอกาสได้รับงานจากโครงการที่เน้นความยั่งยืน
- ลดต้นทุนในระยะยาว แม้ว่าการลงทุนเพื่อให้ได้มาตรฐานอาจมีต้นทุนสูงในช่วงแรก แต่การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยลดต้นทุนการผลิตในระยะยาว เช่น ลดของเสีย ลดพลังงาน
ดังนั้นแล้วกล่าวได้ว่ามาตรฐานเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงข้อบังคับ แต่ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยและโอกาส ที่จะช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมคอนกรีตสำเร็จรูปปรับตัวเพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ลดการปล่อยคาร์บอน ก้าวเข้าสู่การเป็น Net Zero นั่นเอง
ในประเทศไทยเราเองก็มีหลายองค์กรที่เริ่มพัฒนาให้ผลิตภัณฑ์ของตนเป็นส่วนหนึ่งในการรักษ์โลก หนึ่งในนั้นคือแบรนด์ CPS Paving Stone องค์กรที่มุ่งมั่นในการพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปคุณภาพสูง โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอนของการดำเนินงาน ทางแบรนด์ได้มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และได้รับ certificate ที่เป็นฉลากเขียวต่างๆ ที่การันตีว่าผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ผ่านการรับรองจากหน่วยงานสำคัญ อาทิเช่น ฉลากเขียว จาก สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย, เครื่องหมายตะกร้าเขียว จาก กรมควบคุมมลพิษ, Carbon Footprint Organization (CFO) จาก TGO และ Carbon Footprint of Product (CFP) จาก TGO
ท่านใดที่สนใจผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูปและอยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถช่วยส่งเสริมความยั่งยืนในวงการก่อสร้าง สามารถติดต่อสอบถามได้ที่
Call Center 061-4034448
Line ID: @ccp-pavingstone
ผู้เขียนบทความ
ด้วยการเกณฑ์การประเมินคาร์บอนฯ ที่แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่
1. Low Carbon CFO (Carbon Footprint for Organization) : การประเมิน carbon footprint ขององค์กร
2. Low Carbon CFP (Carbon Footprint of Product) : การประเมิน carbon footprint ของผลิตภัณฑ์
ทั้งนี้เพื่อผลักดันให้ผู้ผลิตและผู้พัฒนาวัสดุที่มีความมุ่งมั่นในการลดคาร์บอนจากวัสดุที่จำหน่าย มุ่งสู่เส้นทาง Low Carbon material ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทางโครงการมีการแบ่งเฟสที่บอกระดับว่าแต่ละองค์กรอยู่ที่จุดไหนแล้วบ้าง ได้แก่
Phase 1 : Committed เข้าร่วมโครงการ Wazzadu Low Carbon Material Library สู่เส้นทาง Low Carbon
Phase 2 : On-Track ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
Phase 3 : Achieved สามารถปล่อยคาร์บอนฯ ต่ำได้แล้วเมื่อเทียบจากครั้งก่อนๆ
หวังว่าห้องสมุดที่รวมวัสดุคาร์บอนฯ ต่ำนี้จะช่วยให้ทุกท่านได้พบกับวัสดุที่สามารถใช้ออกแบบให้เกิดเป็นสถาปัตยกรรมคาร์บอนต่ำได้จริง ... อ่านเพิ่มเติม