ทำไม Renewable Energy ถึงกลายเป็นพลังงานแห่งอนาคต
ปัจจุบันโลกกำลังเผชิญความท้าทายด้านพลังงาน ทั้งภาวะโลกร้อน ต้นทุนพลังงานที่ผันผวน และความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ “Renewable Energy” หรือพลังงานหมุนเวียนกลายเป็นคำตอบสำคัญของอนาคต ไม่ว่าจะเป็นพลังงานแสงอาทิตย์ ลม ชีวมวล หรือพลังงานน้ำ เทคโนโลยีเหล่านี้กำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็วและมีความคุ้มค่ามากขึ้น ทำให้ธุรกิจ อุตสาหกรรม และผู้บริโภคทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิม บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักเหตุผลสำคัญว่าทำไมพลังงานหมุนเวียนถึงเป็นอนาคตของโลก พร้อมทั้งโซลูชันจาก Schneider Electric ที่ช่วยผลักดันการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ให้เกิดขึ้นจริง
Renewable Energy คืออะไร
Renewable Energy คือ พลังงานที่มาจากแหล่งธรรมชาติที่สามารถเกิดขึ้นใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง เช่น แสงอาทิตย์ ลม น้ำ ความร้อนใต้พิภพ หรือชีวมวล ต่างจากพลังงานฟอสซิลที่มีจำกัดและใช้แล้วหมดไป พลังงานหมุนเวียนยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน ทำให้เป็นพลังงานที่ทั้งสะอาดและยั่งยืน ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกกำลังลงทุนอย่างจริงจังเพื่อเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนในระบบผลิตไฟฟ้า และยกระดับความมั่นคงด้านพลังงานในระยะยาว
ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ Renewable Energy เติบโตทั่วโลก
- ต้นทุนเทคโนโลยีลดลงอย่างมาก ราคาแผงโซลาร์เซลล์และกังหันลมลดลงต่อเนื่อง ทำให้ต้นทุนผลิตไฟฟ้าถูกกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิลในหลายประเทศ
- นโยบายสนับสนุนจากภาครัฐทั่วโลก การให้เงินอุดหนุน ลดภาษี และกำหนดเป้าหมายใช้พลังงานสะอาด (Renewable Targets) กฎหมาย Net Zero และ Carbon Tax ที่ผลักดันองค์กรให้ลดคาร์บอน
- ความต้องการด้านความยั่งยืนเพิ่มสูงขึ้น ผู้บริโภคและองค์กรให้ความสำคัญเรื่อง ESG, ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และการลดการปล่อยคาร์บอน
- ความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้ำมันและก๊าซ ราคาพลังงานฟอสซิลไม่แน่นอน ทำให้หลายประเทศต้องการแหล่งพลังงานที่คงที่และคาดการณ์ต้นทุนได้
- พัฒนาการด้านเทคโนโลยีเก็บพลังงาน (Energy Storage) แบตเตอรี่มีประสิทธิภาพดีขึ้น ราคาเข้าถึงได้ ช่วยแก้ปัญหาความไม่ต่อเนื่องของพลังงานหมุนเวียน
- Smart Grid และระบบดิจิทัลช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ AI, IoT และระบบควบคุมอัจฉริยะช่วยบริหารจัดการพลังงานได้ดีขึ้น ทำให้ Renewable มีเสถียรมากกว่าเดิม
- องค์กรระดับโลกเข้าร่วมโครงการ RE100 บริษัทใหญ่ใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ทำให้ดีมานด์พลังงานสะอาดเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
- ความจำเป็นด้านความมั่นคงทางพลังงาน หลายประเทศต้องการลดการพึ่งพาพลังงานนำเข้า โดยหันมาผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานในประเทศ เช่น แสงอาทิตย์และลม
ประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ทำให้ Renewable Energy คุ้มค่าในระยะยาว
- ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในระยะยาว หลังติดตั้งโซลาร์หรือกังหันลม ต้นทุนผลิตไฟฟ้าต่อหน่วยต่ำและคงที่ ไม่ต้องกังวลราคาน้ำมัน/ก๊าซขึ้นลง
- ลดความเสี่ยงจากความผันผวนของพลังงานฟอสซิล ราคาน้ำมันและก๊าซมีความผันผวนสูง การใช้พลังงานหมุนเวียนช่วยให้คาดการณ์ต้นทุนได้แม่นยำกว่า
- เพิ่มความสามารถแข่งขันทางธุรกิจ บริษัทที่ใช้พลังงานสะอาดมีต้นทุนที่เสถียรกว่า ภาพลักษณ์ดีขึ้น และตอบโจทย์มาตรฐาน ESG
- สร้างงานใหม่และกระตุ้นเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียนสร้างงานในสาขาวิศวกรรม การก่อสร้าง การบำรุงรักษา และเทคโนโลยีดิจิทัล
- ลดต้นทุนการดำเนินงานของประเทศ ประเทศลดการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างชาติ ช่วยประหยัดงบประมาณและเพิ่มเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
- เพิ่มมูลค่าทรัพย์สินด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน ระบบโซลาร์, แบตเตอรี่ และโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ เป็นสินทรัพย์ที่มีอายุการใช้งานยาวและสร้างผลตอบแทนต่อเนื่อง
- รองรับนโยบายภาษีคาร์บอน (Carbon Tax / ETS) ใช้พลังงานสะอาดช่วยลดต้นทุนภาษีคาร์บอนในอนาคต ทำให้องค์กรมีความได้เปรียบในการแข่งขัน
- เพิ่มโอกาสทางธุรกิจใหม่ เกิดอุตสาหกรรมใหม่ เช่น EV Charging, Energy Storage, Microgrid และบริการพลังงานดิจิทัล
เทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยให้พลังงานหมุนเวียนมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เทคโนโลยีสมัยใหม่ช่วยให้ Renewable Energy มีความเสถียรและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage) เช่น แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ช่วยเก็บไฟฟ้าส่วนเกินจากแสงอาทิตย์ในช่วงกลางวันมาใช้ตอนกลางคืน หรือระบบดิจิทัลอย่าง AI, IoT และ Smart Grid ที่ช่วยวิเคราะห์และควบคุมการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Solar Tracking ที่ช่วยให้แผงโซลาร์ผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้นในแต่ละวัน เทคโนโลยีทั้งหมดนี้ทำให้พลังงานหมุนเวียนมีความคุ้มค่าและน่าใช้มากกว่าเดิม
Renewable Energy กับความมั่นคงทางพลังงานในอนาคต
ความมั่นคงทางพลังงานเป็นเรื่องสำคัญของทุกประเทศ พลังงานหมุนเวียนช่วยลดการพึ่งพิงเชื้อเพลิงนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งมีความเสี่ยงทั้งด้านราคาและการขนส่ง การใช้พลังงานแสงอาทิตย์หรือลมที่ผลิตได้ในประเทศ ทำให้ระบบไฟฟ้ามีเสถียรภาพมากขึ้น และยังช่วยสร้างความยืดหยุ่น (Resilience) ให้กับระบบไฟฟ้าเมื่อเกิดภัยธรรมชาติหรือความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ จึงเป็นรากฐานสำคัญของระบบพลังงานในอนาคตที่ทั้งปลอดภัยและยั่งยืน
การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด (Energy Transition) ที่กำลังเกิดขึ้นในระดับโลก
Energy Transition คือการเปลี่ยนจากการใช้พลังงานฟอสซิลไปสู่พลังงานสะอาดมากขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยคาร์บอนและปกป้องสิ่งแวดล้อม หลายประเทศประกาศนโยบาย Net Zero และตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนภายในระบบไฟฟ้าอย่างจริงจัง ธุรกิจจำนวนมากเริ่มใช้นโยบาย RE100 ที่ต้องใช้พลังงานหมุนเวียน 100% และลงทุนในเทคโนโลยีที่ช่วยลดคาร์บอน การเปลี่ยนผ่านนี้กำลังเกิดขึ้นในทุกภาคส่วน และจะเป็นแรงผลักสำคัญที่นำพาโลกไปสู่อนาคตพลังงานสะอาดอย่างเต็มรูปแบบ
โซลูชันพลังงานสะอาดจาก Schneider Electric ที่ช่วยผลักดันอนาคตพลังงานหมุนเวียน
Schneider Electric เป็นผู้นำระดับโลกด้านพลังงานและดิจิทัลที่มุ่งสนับสนุนการใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ โซลูชันอย่าง EcoStruxure Microgrid, Energy Management Systems, และระบบควบคุมอัจฉริยะช่วยให้ธุรกิจสามารถผลิต จัดเก็บ และใช้พลังงานสะอาดได้อย่างมีประสิทธิผล ช่วยลดต้นทุน ลดการปล่อยคาร์บอน และเพิ่มความเสถียรของระบบไฟฟ้า นอกจากนี้ Schneider Electric ยังช่วยองค์กรออกแบบเส้นทางสู่ Net Zero พร้อมโซลูชันครบวงจร ตั้งแต่การวิเคราะห์ การติดตั้ง ไปจนถึงการดูแลระบบในระยะยาว
นอกจากนี้ ที่ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) ยังมีอุปกรณ์และโซลูชั่นด้านไฟฟ้า พลังงาน และโซลูชั่นด้านความยั่งยืนอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สวิตช์ไฟ Home Automation Overload Relay Switchgear , Surge Protector โซลูชั่น อาคารอัจฉริยะ และอื่นๆ อีกมากมาย สามารถเลือกชมผลิตภัณฑ์ได้ที่เว็บ www.se.com หรือ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทางศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ ได้เลย
ติดตามเรื่องราวดี ๆ จาก ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้ที่
เว็บไซต์: www.se.com
Facebook: Schneider Electric
Instagram: schneiderelectric_th
LinkedIn: Schneider Electric
Lazada: Schneider Electric
Shopee: Schneider Electric official
LINE Official: ชไนเดอร์ อิเล็คทริค
ผู้เขียนบทความ