ไอเดียการออกแบบตกแต่งภายใน ด้วยสไตล์ Modern Industrial ที่ให้ความดิบเท่ ผสานกับความเรียบง่ายทันสมัยได้อย่างลงตัว

ในอดีต สไตล์อินดัสเทรียล (Industrial Style) ได้รับแรงบันดาลใจในการตกแต่งมาจากยุคอุตสาหกรรมในช่วงปี 1960-1970 ที่โลกของการผลิตถูกเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ระบบอุตสาหกรรม รูปแบบของโรงงานอุตสาหกรรมในยุคนั้น ก็ล้วนถูกก่อสร้างและตกแต่งให้มีลักษณะ Space ที่มีความสูงโปร่ง การใช้วัสดุต่างๆ เช่น เหล็ก คอนกรีต หรือ ไม้ ที่นำมาใช้ก่อสร้างตกแต่งมักจะไม่ได้ถูกปิดผิว จึงให้ความรู้สึกที่ดิบและดุดัน เป็นการโชว์พื้นผิวลวดลายรวมถึงเฉดสีที่แท้จริงของตัววัสดุนั้นๆ ได้อย่างเรียบง่ายตรงไปตรงมา โดยไม่มีการปรุงแต่งใดๆ เพิ่มเติม

นอกจากนี้ชิ้นส่วนกลไกของเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตัวอาคาร ก็ยังเป็น Detail ที่ทำให้สไตล์นี้มีความเด่นชัดในความทรงจำของผู้คนกับรูปแบบสไตล์ที่เป็นตัวแทนของระบบจักรกลอุตสาหกรรมอีกด้วย หรือ หากกล่าวโดยย่อๆ เข้าใจง่ายก็คือ Industrial เป็นสไตล์ที่ไม่ได้เน้นปรุงแต่งรูปลักษณ์มากนัก แต่จะเน้นไปที่ฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นหลัก

ในปัจจุบันความเป็นสไตล์อินดัสเทรียลแบบดั้งเดิม ได้ถูกผมสผสานเข้ากับความเรียบง่ายนำสมัยในแบบโมเดิร์น (Modern) มากขึ้น ซึ่งก็เป็นไปตามยุคสมัยที่มีเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ถือเป็นรูปแบบการผสมผสานระหว่างสไตล์ที่มีความดิบเท่ดุดัน เน้นฟังก์ชั่นการใช้งาน ตามแบบฉบับจักรกลอุตสาหกรรม กับสไตล์ที่มีความเรียบง่ายตรงไปตรงมา และมีความนำสมัยได้อย่างลงตัว จนกลายมาเป็น สไตล์โมเดิร์น อินดัสเทรียล (Modern Industrial) ในแบบที่เราเห็นในปัจจุบัน 

รูปภาพประกอบจาก : www.archdaily.com

Reuse of an Industrial Space / RuizEsquíroz

Photographs : Imagen Subliminal (Miguel de Guzmán + Rocío Romero)

รูปภาพประกอบจาก : www.archdaily.com

Reuse of an Industrial Space / RuizEsquíroz

Photographs : Imagen Subliminal (Miguel de Guzmán + Rocío Romero)

Character หรือ อัตลักษณ์เด่นของ Modern Industrial Style คือการใช้วัสดุที่ไม่มีการตกแต่งปิดผิวมากจนเกินไป จะเน้นการเปิดให้เห็น Texture ของวัสดุนั้นๆ ได้อย่างตรงไปตรงมา เช่น โครงสร้างเหล็กเอชบีมที่แสดงให้เห็นตัวโครงสร้างเหล็กแบบชัดเจน  พื้นและผนังปูนเปลือยที่แสดงให้เห็นพื้นผิวของคอนกรีตได้อย่างเด่นชัด ผนังอิฐที่แสดงให้เห็นการโชว์แนวอิฐแบบดิบๆ หรือ ผนังและเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่แสดงให้เห็นลายไม้ได้อย่างเด่นชัด

ในแง่ของการออกแบบ  Space หรือฟังก์ชั่นพื้นที่การใช้งานภายในอาคาร ส่วนใหญ่แล้วจะนิยมออกแบบให้พื้นที่การใช้งานให้มีความสูงโปร่งแบบ Open Space & Double Volume โดยออกแบบลักษณะหลังคาให้คล้ายกับหลังคาโรงงานอุตสาหกรรมแต่มีความเรียบง่ายทันสมัยสวยงามกว่า และออกแบบช่องเปิดด้วยหน้าต่างขนาดใหญ่เพื่อรับแสงธรรมชาติ รวมไปถึงงานระบบ และกลไกต่างๆ ก็มีการติดตั้งโดยไม่มีการซ่อนเร้นใดๆ โดยแสดงให้เห็น Detail งานระบบที่ชัดเจน ซึ่งเป็นลูกเล่นที่น่าสนใจของสไตล์นี้เลยก็ว่าได้

รูปภาพประกอบจาก : www.archdaily.com

LabourUnion Fashion Studio / TRIOSTUDIO

Photographs : EMMA

รูปภาพประกอบจาก : www.archdaily.com

LabourUnion Fashion Studio / TRIOSTUDIO

Photographs : EMMA

Moodtone หรือ องค์ประกอบการใช้สีของ Modern Industrial Style จะเน้นไปที่ 2 ความรู้สึกที่ผสมผสานกัน ได้แก่

  • ความรู้สึกดิบเท่ดุดันในแบบฉบับจักรกลอุตสาหกรรม มักจะใช้โทนสีเข้ม เช่น สีดำ สีเทาเข้ม สีน้ำตาลเข้ม และสีพื้นผิวที่เป็นสัจจะวัสดุ เช่น พื้นผิวส้มอิฐ พื้นผิวลายไม้ พื้นผิวเหล็ก พื้นผิวอะลูมิเนียม พื้นผิวสเตนเลส พื้นผิวกระจก ฯลฯ
  • ความรู้สึกที่เรียบง่าย ปลอดโปร่ง และมีความนำสมัย มักจะใช้โทนสีอ่อน เช่น สีขาว สีเทาอ่อน และสีโทนพาสเทล รวมไปถึงสีพื้นผิวที่เป็นสัจจะวัสดุในโทนอ่อน เช่น พื้นผิวลายไม้โทนสีอ่อน ฯลฯ

รูปภาพประกอบจาก : www.archdaily.com

Jetlag Bookstore / +C Architects

Photographs : Seemore Studio

รูปภาพประกอบจาก : www.archdaily.com

Jetlag Bookstore / +C Architects

Photographs : Seemore Studio

Material หรือ วัสดุหลักที่ใช้ในการก่อสร้าง และตกแต่งในแบบ Modern Industrial Style ประกอบด้วย

  • คอนกรีตเปลือย หรือ ปูนเปลือยขัดมัน : นิยมใช้ก่อสร้างในส่วนของพื้น และผนังอาคาร
  • อิฐ : นิยมใช้ก่อเป็นผนังอิฐโชว์แนว
  • กระเบื้องลายพื้นผิววัสดุธรรมชาติ (เช่น กระเบื้องหินแกรนิต กระเบื้องลายคอนกรีตขัดมัน กระเบื้องลายไม้ ฯลฯ) : ใช้ปูพื้น และผนัง ทดแทนวัสดุจริง (ในกรณีเน้นทำความสะอาดง่ายๆ)
  • แผ่นลามิเนตลายพื้นผิววัสดุธรรมชาติ (เช่น ลามิเนตลายหิน ลามิเนตลายคอนกรีตเปลือย ลามิเนตลายไม้ ลายมิเนตลายโลหะ ฯลฯ) : ใช้กรุปิดผิวเฟอร์นิเจอร์ Built-in และผนัง โดยใช้ทดแทนวัสดุจริง (ในกรณีเน้นทำความสะอาดง่ายๆ)
  • เหล็กเอชบีม : ใช้ทำโครงสร้างอาคาร เช่น เสา คาน โครงสร้างบันได และโครงหลังคา (ขนาดใหญ่)
  • เหล็กท่อกลม และท่อแบน (เหล็กกล่อง) : ใช้ทำโครงสร้างหลังคา และโครงสร้างสำหรับงานตกแต่งภายใน เช่น โครงผนัง โครงชั้นวาง ราวกันตก ราวบันได เคาน์เตอร์ โครงเฟอร์นิเจอร์เหล็กแบบ Built-in และองค์ประกอบการตกแต่งยิบย่อยเพื่อสร้างจุดเด่นอื่นๆ
  • ท่อสังกะสี และท่อเหล็กชุบสังกะสี : ใช้ในงานตกแต่งภายใน และใช้เดินท่องานระบบ ทั้งงานระบบท่อน้ำประปา และงานระบบเดินท่อสายไฟแบบโชว์เปลือย
  • เหล็กตัวซี และเหล็กฉาก : ใช้ทำโครงหลังคา และงานตกแต่งภายใน เช่น เฟอร์นิเจอร์ Built-in ฯลฯ
  • แผ่นเหล็ก และสเตนเลส : ใช้กรุตกแต่งปิดผิวผนัง และเฟอร์นิเจอร์ Built-in
  • อะลูมิเนียม : ใช้ทำเฟรมประตู หน้าต่างอาคาร และเฟรมผนังกระจกภายในอาคาร
  • กระจก : ใช้ทำประตู หน้าต่าง และช่องเปิดกระจก รวมถึงงานผนังกระจกภายในอาคาร

รูปภาพประกอบจาก : www.archdaily.com

The Grey Interiors / Alexey Rozenberg

Photographs : Michail Stepanov, Vladilen Razgulin

รูปภาพประกอบจาก : www.archdaily.com

The Grey Interiors / Alexey Rozenberg

Photographs : Michail Stepanov, Vladilen Razgulin

Movable Furniture หรือ เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวที่นิยมนำไปใช้ตกแต่งในแบบ Modern Industrial Style นอกเหนือจากเฟอร์นิเจอร์ Built-in ที่มีความกลมกลืนไปกับ Moodtone การตกแต่งในภาพรวมอยู่แล้ว การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว และของตกแต่งก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน

ส่วนใหญ่แล้วเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวที่นิยมใช้ก็จะมีชุดโซฟาหนังสีดำ สีน้ำตาล สีเทา และสีโทนเข้มอื่นๆ ถ้าเป็นโซฟาผ้า ก็จะนิยมสีเทาอ่อน สีขาว สีน้ำตาลอ่อน และสีโทนอ่อนอื่นๆ ส่วนโต๊ะและเก้าอี้มักนิยมใช้แบบโครงเหล็กบุหนังและผ้า ในส่วนของตู้และชั้นวางนิยมใช้ตู้เหล็กและตู้ไม้ทั้งสีโทนเข้มและโทนอ่อน รวมไปถึงสีพื้นผิววัสดุ (ได้ทั้งพื้นผิวจากวัสดุจริงและจากวัสดุปิดผิว) 

ในส่วนโคมไฟนิยมใช้โคมไฟเหล็ก โคมไฟโมเดิร์น (ใช้ได้ทั้งโทนสีเข้มและสีอ่อนตาม Moodtone หลักที่ใช้ในการตกแต่ง) และหลอดเอดิสัน สำหรับของตกแต่งยิบย่อยอื่นๆ ให้เน้นไปที่ของตกแต่งที่สื่อถึงความเป็นจักรกลอุตสาหกรรมจะทำให้มีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น 

รูปภาพประกอบจาก : www.archdaily.com

Hidden Hour Bar / all around design company

Photographs :Myungjin Jun

รูปภาพประกอบจาก : www.archdaily.com

Hidden Hour Bar / all around design company

Photographs : Myungjin Jun

จากเนื้อหาที่ได้กล่าวไปในข้างต้น ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ โมเดิร์น อินดัสเทรียล (Modern Industrial) เป็นสไตล์ที่บ่งบอกถึงคุณค่าการออกแบบและการใช้วัสดุที่ผ่านกาลเวลาจากยุคอุตสาหกรรมมาจนถึงปัจจุบัน โดยผสมผสานกับความเรียบง่ายนำสมัยในยุคนี้ได้อย่างลงตัว และถูกถ่ายทอดออกมาผ่านการตกแต่งภายในได้อย่างมีเสน่ห์

คุณสมบัติของเหล็กประเภทต่างๆ ที่นิยมใช้ตกแต่งในสไตล์ Modern Industrial

ข้อมูลผลิตภัณฑ์เหล็กประเภทต่างๆ ที่นิยมใช้ตกแต่งในสไตล์ Modern Industrial

  • ท่อสังกะสีพรีซิงค์

    โครงสร้าง เหล็ก

    ราคาเริ่มต้น 39.50 บาท/กิโลกรัม

    Online
  • ท่อเหล็กดำ เหล็กกล่อง

    โครงสร้าง เหล็ก

    ราคาเริ่มต้น 35 บาท/กิโลกรัม

    Online
  • เหล็กโครงสร้างรูปพรรณตัวซี มอก.

    โครงสร้าง เหล็ก

    ราคาเริ่มต้น 33.50 บาท/กิโลกรัม

    Online
  • ท่อเหล็กชุบสังกะสี

    โครงสร้าง เหล็ก

    ราคาเริ่มต้น 35 บาท/กิโลกรัม

    Online

ถ้าหากท่านใดที่สนใจผลิตภัณฑ์เหล็กประเภทต่างๆ

สำหรับนำไปใช้ในงานตกแต่งภายใน และภายนอกอาคาร

สามารถสอบถามข้อมูล และติดต่อแบรนด์ได้ที่ Cotco Call Center  02-285-2700​ ​

Website : www.cotcometalworks.co.th  ,FB Page : Cotco Metal Works Ltd.

และ Line Official : https://lin.ee/pIUNkHc

บริษัท คอทโก้เมททอลเวอร์คส จำกัด / COTCO METAL WORKS LIMITED
ผู้ผลิตท่อเหล็ก เหล็กรูปพรรณขึ้นรูปเย็น และศูนย์บริการเหล็ก ...

ไอเดียมาใหม่

โพสต์เมื่อ

การออกแบบ และเลือกใช้วัสดุ
หน้าต่างในงานสถาปัตยกรรม (Window type in architecture)

โพสต์เมื่อ

บทความที่เกี่ยวข้อง

...

โพลสำรวจ

ถาม-ตอบ

Wazzadu.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานของคุณ